Monday, December 4, 2023

นักประดิษฐ์ไทยคว้ารางวัล Platinum Award จากงาน “2023 Kaohsiung International Invention and Design EXPO” ณ เมืองเกาสง ไต้หวัน


นักประดิษฐ์จากคณะสหเวชศาสตร์ และคณะวิศวกรรมศาสตร์  มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยในการคว้ารางวัล Platinum Award จากงาน “2023 Kaohsiung International Invention and Design EXPO” (KIDE 2023) ณ เมืองเกาสง ไต้หวัน ง
ลจากผลงานเรื่อง “อุปกรณ์อัจฉริยะติดตามสมรรถภาพทางกายสำหรับผู้ใช้งานวีลแชร์” โดยทีมนักประดิษฐ์ที่ได้รับรางวัล ได้แก่ ผศ.ดร.สายรัก สอาดไพร และคณะ ซึ่งผลงานเป็นระบบที่สามารถวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของวีลแชร์ พัฒนาขึ้นเพื่อตรวจจับ รวบรวม และวิเคราะห์ข้อมูลการเคลื่อนไหวของวีลแชร์ สามารถนำไปใช้ในการแข่งขันและฝึกซ้อมกีฬาวีลแชร์ เป็นการพัฒนาระบบการประมวลผลและออกแบบจอแสดงผลข้อมูล เพื่อให้ผู้ฝึกสอนกีฬาและนักกีฬาสามารถประเมินการเคลื่อนไหวในขณะใช้วีลแชร์ เพื่อนำข้อมูลไปใช้ในการวิเคราะห์และพัฒนาสมรรภาพของนักกีฬา 

สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม นำทีมนักประดิษฐ์นักวิจัยไทยคว้ารางวัลPlatinum Award พร้อมเหรียญรางวัลในระดับต่างๆ และรางวัลสำคัญจากการประกวดสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมระดับนานาชาติอีกในเวที KIDE 2023 เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2566 ณ Kaohsiung Exhibition Center ไต้หวัน  

นอกจากนี้ ยังมีประดิษฐกรรมและและนวัตกรรมของทีมนักประดิษฐ์ไทยอีก 4 ผลงานที่ได้รับ Special Prize on stage จากองค์กรนานาชาติ ได้แก่

- รางวัลจาก Hong Kong Yan Chai STEAM Faire เขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (The Best International Invention Award) ผลงานเรื่อง “DiabeTRODE: เครื่องตรวจการรับความรู้สึกและบำบัดอาการปลายประสาทเท้าเสื่อมโดยกระตุ้นด้วยกระแสไฟฟ้าอย่างอ่อนสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน” โดย นายชนันท์ เกียรติสิริสาสน์ และคณะจากโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย

- รางวัลจาก Indonesian Innovation and Invention Promotion Association สาธารณรัฐอินโดนีเซีย (Special Award) ผลงานเรื่อง “การเพิ่มมูลค่าจากบัวเพื่อพัฒนาและออกแบบผลิตภัณฑ์สู่เชิงพาณิชย์  จังหวัดปทุมธานี” โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ กรณัท สุขสวัสดิ์ และคณะ จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี

- รางวัลจาก Romanian Inventors Forum ราชอาณาจักรโรมาเนีย (EuroInvent Medal) ผลงานเรื่อง “ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติชนิดใหม่เพื่อป้องกันความเสียหายต่อผักและผลไม้จากเชื้อก่อโรคในอาหารในระหว่างการส่งออก” โดย รองศาสตราจารย์ ดร.ดุสิต อธินุวัฒน์ และคณะ จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

- รางวัลจาก DIS Expo รัฐดูไบ (Special Award) ผลงานเรื่อง “อุปกรณ์ตรวจสอบฟิวส์แรงต่ำ” โดย นายชัยศิริ บุญเชิดและนายขจร เอมโอฐ จากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค 

ในเวที KIDE ผลงานของนักประดิษฐ์นักวิจัยไทยได้คว้าเหรียญรางวัลในระดับต่างๆ ดังนี้
-เหรียญทอง 16 ผลงาน
-เหรียญเงิน 11 ผลงาน
พร้อมด้วย Special Prize จากประเทศต่างๆ 

ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ ได้ร่วมในพิธีมอบรางวัล พร้อมนี้ได้แสดงความยินดีกับนักประดิษฐ์นักวิจัยที่ได้รับรางวัลจากเวที KIDE พร้อมกล่าวชื่นชมทีมนักประดิษฐ์นักวิจัยไทยที่ได้สร้างชื่อเสียงและการยอมรับในมาตรฐานของผลงานสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมของประเทศไทยในเวทีนานาชาติในครั้งนี้ รวมทั้ง โอกาสในการส่งเสริมและต่อยอดสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมที่ได้รับรางวัล เพื่อใช้ประโยชน์ในการพัฒนาประเทศต่อไป
สำหรับ 14 หน่วยงานจากประเทศไทยที่ร่วมสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยในการคว้ารางวัลในเวที “2023 Kaohsiung International Invention and Design EXPO” ได้แก่
1. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
2. มหาวิทยาลัยบูรพา
3. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
4. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
5. มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร
6. มหาวิทยาลัยรังสิต
7. การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
8. บริษัท เวลตี้ ม็อกกี้ อินโนเวชั่น 
9. บริษัท เซน อินโนเวชั่น กรุ๊ป จำกัด
10. โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย
11. โรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย ตรัง
12. โรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย มุกดาหาร
13. โรงเรียนพิษณุโลกพิทยาคม
14. โรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย

“ศุภมาส” รมว.อว. ลงพื้นที่ตรวจราชการ ก่อนประชุม ครม.นอกสถานที่ จ.อุดรธานี เพื่อเตรียมผลักดันงานวิจัยและนวัตกรรมต่อยอดพัฒนาศักยภาพระเบียงเศรษฐกิจภาคอีสาน


เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2566 นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม(อว.) ลงพื้นที่ตรวจราชการในการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) อย่างเป็นทางการนอกสถานที่ครั้งที่ 1/2566 ณ พื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 (บึงกาฬ เลย หนองคาย หนองบัวลำภู และอุดรธานี ) 
ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี เพื่อประชุมมอบนโยบายการทำงานด้านอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อววน.) พัฒนากลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 โดยมีนายเพิ่มสุข สัจจาภิวัฒน์ ปลัด อว. พญ.เพชรดาว โต๊ะมีนา ที่ปรึกษา รมว.อว. ผู้บริหารกระทรวง อว.และผู้บริหารงาน อว.ส่วนหน้าและเครือข่ายมหาวิทยาลัยในสังกัดกระทรวง อว.เข้าร่วม โดยมี นางคณิตา ราษฎร์นุ้ย รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.คณิศรา ธัญสุนทรสกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ให้การต้อนรับ ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี

รมว.อว. ชมนิทรรศการแสดงผลการดำเนินงานโครงการของกระทรวง อว.เพื่อแก้ไขปัญหาความยากจน ลดความเหลื่อมล้ำและการพัฒนาชุมชนเชิงพื้นที่ เช่น UDRU NEXTs และหลักสูตรการพัฒนาทักษะ upskill – reskill บัณฑิตพันธุ์ใหม่ การผลิตผ้าทอมือย้อมคราม นวัตกรรมยืดอายุการเก็บรักษาเนื้อทุเรียนในบรรจุภัณฑ์เพื่อส่งออก การบริหารจัดการน้ำชุมชน การนำ BCG โมเดลขับเคลื่อนชุมชนที่มีฐานการผลิตข้าวเหนียวให้มีการสร้างมูลค่าเพิ่มแบบครบวงจร เป็นต้น

จากนั้น รมว.อว. ได้ประชุมมอบนโยบายการทำงานด้าน อววน.พัฒนากลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 ว่า พื้นที่จังหวัดกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 ได้แก่ บึงกาฬ เลย หนองคาย หนองบัวลำภู และอุดรธานี มีศักยภาพ อยู่ในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคอีสาน ที่สามารถพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเอื้ออำนวย และกระตุ้นให้เกิดการค้า การลงทุนในพื้นที่ ตลอดจนมีทรัพยากรธรรมชาติ วัฒนธรรมประเพณี และศาสนา ดังจะเห็นจากเป็นแหล่งมรดกโลกบ้านเชียง จ.อุดรธานี แหล่งวัฒนธรรมและประเพณี เช่น เทศกาลผีตาโขน เทศกาลบั้งไฟพญานาค จ.หนองคาย งานนมัสการพระธาตุศรีสองรัก 
งานแสดงไม้ดอกเมืองหนาว จ. เลย เป็นต้น ซึ่งพร้อมที่พัฒนาศักยภาพให้เป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาเยือน เพื่อเป็นการนำรายได้เข้าสู่จังหวัด กระทรวง อว.พร้อมให้การสนับสนุน ในการนำผลงานวิจัยและนวัตกรรมต่างๆ ที่ดำเนินการในพื้นที่ของหน่วยงานในสังกัด อว. มาบูรณาการการทำงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อต่อยอดและพัฒนาศักยภาพของพื้นที่ให้โดดเด่นกว่าเดิม ซึ่งนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทยก็ได้เน้นย้ำผลักดันให้กระทรวง อว. เป็นกระทรวงเศรษฐกิจ ดังนั้นการมีส่วนร่วมกับพื้นที่และชุมชนจึงสำคัญ เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาพร้อมกับยกระดับทั้งภาคการท่องเที่ยว ภาคการเกษตร ภาคอุตสาหกรรมเพื่อนำไปสู่การสร้างรายได้เพื่อสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจสู่ประชาชน

“ดีใจที่ได้เห็นความสุขของพี่น้องประชาชนที่มาจากการที่ กระทรวง อว.เข้ามาสนับสนุนส่งเสริมการแก้ปัญหาความยากจน สร้างงาน สร้างรายได้ ด้วยการนำ อววน.เข้ามาช่วยในการพัฒนาพื้นที่ผ่านหน่วยปฏิบัติการ อว.ส่วนหน้า มหาวิทยาลัยและหน่วยงานต่างๆ ที่อยู่ในพื้นที่ ซึ่งเป็นนโยบายที่ตนมุ่งเน้นคือหน่วยงานด้านวิจัยและพัฒนาของ อว. ต้องร่วมมือกับพื้นที่ในการนำวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมมาพัฒนาในพื้นที่ให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม ที่สำคัญต้องช่วยยกระดับคุณชีวิตและแก้ปัญหาความยากจนให้ได้ ขณะที่การดูแลนักศึกษาก็เป็นนโยบายสำคัญที่มอบให้มหาวิทยาลัยในพื้นที่นำไปปฏิบัติคือ 1.การยึดนักศึกษาเป็นศูนย์กลาง และให้มีศูนย์หรือระบบดูแลนักศึกษาทั้งร่างกายและจิตใจ 2.การพัฒนาหลักสูตร non degree หรือหลักสูตรระยะสั้น เพื่อให้สามารถประกอบอาชีพได้เลย โดยไม่จำเป็นต้องเรียนถึง 4 ปี” รมว.อว. กล่าว 

การลงพื้นที่ติดตามการตรวจราชการ ในครั้งนี้ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) โดย ดร.วิภารัตน์ 
ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ มอบหมายให้ นางสาวเสาวนีย์ มุ่งสุจริตการ เลขานุการกรม นำ คณะนักวิจัย ที่ได้รับการสนับสนุนทุนวิจัย จาก วช. เข้าร่วมจัดนิทรรศการผลการดำเนินงานโครงการของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เพื่อแก้ไขความยากจน ลดความเหลื่อมล้ำ และการพัฒนาชุมชนเชิงพื้นที่ (Area-Based & Community) “นวัตกรรมเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต ยกระดับเศรษฐกิจฐานรากและส่งเสริมแกร่งให้ชุมชนและผู้ประกอบการ” อาทิ โครงการ “การใช้นวัตกรรมการเกษตรและการบูรณาการ ความร่วมมือทางการตลาดระหว่างประเทศ เพื่อส่งออกผลิตผลทุเรียนของเกษตรกรรายย่อยสู่สาธารณรัฐประชาชนจีน” ซึ่งเป็นผลงานวิจัยของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และภาคเอกชน ในการสร้างแนวทางการขยายตลาดการส่งออกทุเรียนไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีนผ่านระบบโลจิสติกส์ใหม่รถไฟความเร็วสูง

โครงการ “เทคโนโลยีการคัดกรองมวลกระดูกสำหรับโรคกระดูกพรุน ด้วยแสงพลังงานต่ำและปัญญาประดิษฐ์ ร่วมกับศูนย์กระดูกและข้อโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี” ซึ่งเป็นผลงานวิจัยของโรงพยาบาลแพทย์อุดรธานี เพื่อสร้างความตระหนักถึงภัยคุกคามที่เกิดจากโรคกระดูกพรุนในผู้สูงอายุ โดยนำผลิตภัณฑ์จากงานวิจัย วัสดุทดแทนกระดูกประเภทไฮดรอกซี่อาปาไทท์ แผ่นดามกระดูกความแข็งแรงสูง มาใช้กับผู้ป่วยสูงอายุที่มีความเสี่ยง พร้อมทั้งจัดกิจกรรมให้ความรู้เกี่ยวกับโรคกระดูกพรุน และตรวจวัดมวลกระดูกให้กับผู้สูงอายุในท้องถิ่นต่าง ๆ

โครงการ “การพัฒนาและผลิตผลึกสารกึ่งตัวนำสารประกอบ III-V โดยวิธีการปลูกผลึกด้วยลำโมเลกุลและพัฒนาอุปกรณ์สารกึ่งตัวนำในอุตสาหกรรมยานยนต์อัจฉริยะอุตสาหกรรมการสื่อสารและอุตสาหกรรมการแพทย์”ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันระหว่มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี และภาคเอกชน นับเป็นการสร้างนวัตกรรม
ด้านการแพทย์อย่างต่อเนื่อง และมีคุณภาพทัดเทียมกับนานาชาติ 

หลังจากนั้น รมว.อว. และคณะผู้บริหาร อว. เดินทางไปยัง คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี (ศูนย์สามพร้าว) และ บริษัทอุดรมาสเตอร์เทค ตำบลโนนสูง อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี เพื่อตรวจเยี่ยมผลการดำเนินงานโครงการพัฒนาและผลิตผลึกสารกึ่งตัวนำสารประกอบ III-V โดยวิธีการปลูกผลึกด้วยลำโมเลกุลและพัฒนาอุปกรณ์สารกึ่งตัวนำในอุตสาหกรรมยานยนต์อัจฉริยะอุตสาหกรรมการสื่อสารและอุตสาหกรรมการแพทย์ และโครงการอาหารแห่งอนาคตและนวัตอัตลักษณ์ เพื่อศึกษาแนวทางการนำงานวิจัยไปใช้ประโยชน์สู่เชิงพาณิชย์ ด้วย

Sunday, December 3, 2023

ศน. จัดประชุมเชิงปฏิบัติการเครือข่ายผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนาและผู้เข้ารับพระราชทานโล่รางวัลฯ และพิธีมอบพัดรองและเข็มเชิดชูเกียรติ ผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา ประจำปี พ.ศ. 2566

วันที่ 2 ธันวาคม 2566 เวลา 14.30 น. สมเด็จพระมหาธีราจารย์ กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ที่ปรึกษาคณะกรรมการคัดเลือกผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ในพิธีมอบพัดรองและเข็มเชิดชูเกียรติ ผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา ประจำปี พ.ศ. 2566 

โดยมี นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม นายชัยพล สุขเอี่ยม อธิบดีกรมการศาสนา พร้อมด้วย ผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม เจ้าหน้าที่กรมการศาสนา และสื่อมวลชน เข้าร่วมในพิธี ซึ่งมีผู้เข้ารับมอบพัดรองและเข็มเชิดชูเกียรติฯ ประกอบด้วย พระสงฆ์ 91 รูป ฆราวาส 60 คน และหน่วยงาน 9 แห่ง ณ อาคารหอศิลป์แห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร 


กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม เป็นหน่วยงานที่มีภารกิจดำเนินการเสริมสร้างศีลธรรมและปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรมทางศาสนา ที่จะนำมาพัฒนาและส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมให้กับประชาชนชาวไทย ได้คัดเลือกผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา เพื่อยกย่องผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการจรรโลงและเผยแผ่พระพุทธศาสนาให้ดำรงอยู่ในสังคมไทยอย่างเข้มแข็ง

 จัดการประกวดสวดมนต์หมู่สรรเสริญพระรัตนตรัย ทำนองสรภัญญะ การประกวดบรรยายธรรม และการประกวดสวดโอ้เอ้วิหารราย ในกลุ่มเด็กและเยาวชน เพื่อให้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีและมีคุณภาพ ส่งเสริมสนับสนุนให้สถานศึกษาร่วมรณรงค์ส่งเสริม และปลูกฝังให้เยาวชนกล้าแสดงออกในสิ่งที่ถูกต้องดีงาม รวมทั้งร่วมสืบสานวัฒนธรรมชาวพุทธที่ดีงาม 

นายชัยพล สุขเอี่ยม อธิบดีกรมการศาสนา (อศน.) กล่าวว่า ในวันนี้ กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนา จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการเครือข่ายผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา และพิธีมอบพัดรองและเข็มเชิดชูเกียรติ ผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา ประจำปี พ.ศ. 2566 ณ อาคารหอศิลป์แห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร 

เพื่อสร้างเครือข่ายความร่วมมืองานส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมและสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนาและเครือข่ายสถานศึกษา ซึ่งเป็นผู้ที่ได้ส่งเสริมสนับสนุนกิจกรรมงานทางพระพุทธศาสนา ให้เกิดประโยชน์ต่อชุมชนและสังคมโดยรวมอย่างเป็นรูปธรรม รวมทั้งชี้แจงระเบียบแนวทางปฏิบัติตนที่ผู้เข้ารับพระราชทานรางวัลและซักซ้อมการเข้ารับพระราชทานรางวัลฯ โดยมีกลุ่มเป้าหมายประกอบด้วย ผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา สถานศึกษาที่ชนะการประกวดกิจกรรมส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรม ผู้บริหารกรมการศาสนา สื่อมวลชน และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ซึ่งในพิธีมอบพัดรองและเข็มเชิดชูเกียรติ ผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา ประจำปี พ.ศ. 2566 ได้รับความเมตตาจากสมเด็จพระมหาธีราจารย์ เจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามและที่ปรึกษาคณะกรรมการคัดเลือกผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา เป็นประธานในพิธีมอบและเข็มเชิดชูเกียรติ ซึ่งในปีนี้ มีผู้ที่ได้รับรางวัลเสาเสมาธรรมจักร จำนวน 160 ราย ประกอบด้วย พระสงฆ์ 91 รูป ฆราวาส 60 คน และหน่วยงาน 9 แห่ง

อธิบดีกรมการศาสนา (อศน.) กล่าวต่อไปว่า กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนา ได้คัดเลือกผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา เพื่อส่งเสริมยกย่องสรรเสริญคุณความดี และประกาศเกียรติคุณของผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา ซึ่งเป็นผู้เสียสละทั้งกำลังกาย กำลังสติปัญญา กำลังทรัพย์และเวลาอันมีค่าเพื่อทำนุบำรุง สนับสนุน ส่งเสริมกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนาจนมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ สามารถเป็นแบบอย่างที่ดีแก่พุทธศาสนิกชนทั้งในประเทศและต่างประเทศ 

ทั้งนี้ ผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา รวมทั้งผู้ชนะการประกวดในระดับประเทศ จะได้รับพระราชทานเสาเสมาธรรมจักรและโล่รางวัลพระราชทานจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ  สยามบรมราชกุมารี ซึ่งจะเสด็จพระราชดำเนินเป็นการส่วนพระองค์ไปพระราชทานรางวัลดังกล่าว ในวันอาทิตย์ที่ 3 ธันวาคม 2566 เวลา 17.30 น. ณ วัดปทุมวนาราม เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร

Friday, December 1, 2023

338 ปี วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ เฉลิมฉลองสุดยิ่งใหญ่

วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์เฉลิมฉลองสมโภชพระอารามหลวง ครบรอบ 338 ปี เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว 72 พรรษา ชมความงามวัดคู่วัง – ประวัติศาสตร์ล้ำค่าแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ จัดแสดงแสงสี ดนตรีวัฒนธรรมไทย ตลาดวัฒนธรรมย้อนยุค เจริญจิตตภาวนา  สวดมนต์ข้ามปี ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่


เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม พระธรรมวชิรมุนี , พระราชวชิราธิบดี และพระเมธีวรญาณ  ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร 


พร้อมด้วยนางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี , นางลาลีวรรณ กาญจนจารี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรรม , นายนิธี สีแพร รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) , นางฐนิวรรณ กุลมงคล กรรมการอำนวยการงานสมโภชพระอาราม 338 ปี วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฏิ์ 

ร่วมแถลงข่าวงานเฉลิมฉลองสมโภชพระอารามหลวง วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ครบรอบ 338 ปี เทิดพระเกียรติสมเด็จพระบูรพกษัตริยาธิราชเจ้า และสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท และเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ในฐานะที่ทรงเป็นองค์เอกอัครศาสนูปถัมภก ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ในโอกาสมหามงคลวันเฉลิมพระชนมพรรษา ครบ 6 รอบ 72 พรรษา วันที่ 28 กรกฎาคม 2567 


อีกทั้งเพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้ด้านประวัติศาสตร์ และเผยแพร่  วัดมหาธาตุยุวราสชรังสฤษฎิ์ ราชวรมหาวิหาร ให้เป็นที่รู้จักของประชาชนโดยทั่วไป และนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ


ทั้งนี้เพื่อนำเสนอความงดงามของวัดคู่วัง – ประวัติศาสตร์ล้ำค่าแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ จัดแสดงแสงสี ดนตรีวัฒนธรรมไทย ตลาดวัฒนธรรมย้อนยุคต้นรัตนโกสินทร์ นิทรรศการ 338 ปี วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ และการเจริญจิตตภาวนา  สวดมนต์ข้ามปี ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 


การจัดงานนี้ยังมีจุดประสงค์เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ในโอกาสเจริญพระชนมพรรษาครบ 72 พรรษา ใน ปี พ.ศ. 2567 และเพื่อรำลึกถึงบูรพพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์และเหล่าบูรพาจารย์ ที่ได้สร้างและทำนุบำรุงวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ให้มีความเจริญรุ่งเรืองสืบมาถึงปัจจุบัน

ร่วมสมโภชพระอาราม 338 ปีสุดยิ่งใหญ่


งานสมโภชพระอาราม 338 ปี วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ มีกำหนดจัดขึ้นระหว่าง วันที่ 27 ธันวาคม 2566 ถึงวันที่ 2 มกราคม 2567 เวลา 07.00 – 22.00 น. ณ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ราชวรมหาวิหาร เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร


โดยมีกิจกรรม เจริญพระพุทธมนต์ ถวายภัตตาหารเพล ทำวัตรเย็น คอร์สปฏิบัติธรรม รวมถึงการจัดเสวนาเรื่องงานของพระธรรมทูต นิทรรศการทางการศึกษาของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย และการจัดแสดงนิทรรศการ 338 ปี วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ โดยในวันที่ 31 ธันวาคม 2565 จะมีกิจกรรมเจริญจิตตภาวนา สวดมนต์ข้ามปีเข้าสู่พุทธศักราชใหม่ โดยภายในงานมีกิจกรรมต่าง ๆ มากมายด้วยกัน


การจัดการแสดงประดับไฟ ILLUMINATE LIGHTING SHOW โดยการใช้แสง สี ดึงดูดความสนใจของผู้เข้าชมงาน ใน Concept “การเดินทางด้วยแสงแห่งปัญญา : JOURNEYING THROUGH LIGHT OF WISDOM” 




การแสดงดนตรี ILLUMINATE WITH THAI JAZZ CONCERT ได้แก่ วง THE SOUND OF SIAM , อ.ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี ศิลปินแห่งชาติ ปี 2559 สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีไทยสากล) ฉายา “จอมยุทธขลุ่ย” , คุณปุ้ย ดวงพร พงศ์ผาสุก ( ปุ้ย The Voice Thailand ) ผู้ขับร้องเพลงวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ , วง BRASS BAND & PERCUSSION โดย รองศาสตราจารย์ ดร.สุกรี เจริญสุข , วง FEROCI PHILHARMONIC LIGHT ORCHESTRA โดย อาจารย์ดำริห์ บรรณวิทยกิจ หัวหน้ากลุ่มโอโบแห่งวงดุริยางค์ซิมโฟนีกรุงเทพ , ขุนอิน เดี่ยวระนาด (จากภาพยนต์ไทย โหมโรง) , วงกอไผ่ วงดนตรี แนวร่วมสมัย และวงเสียงไทยคอรัส วงประสานเสียงที่มีเอกลักษณ์ไทย

https://vt.tiktok.com/ZSNxtqjwW/

การแสดงวัฒนธรรม  โขนเด็ก โดยครูชูชีพ ขุนอาจ, ไหว้ครูมวยไทย, การแสดงดนตรีไทย โดย ดิน ดนตรีไทย, ลิเกคณะคุณนายบานเย็น และโนราห์เยาวชน 


ชมเสน่ห์ตลาดวันวาน ย่านวังหน้า

ในส่วนของตลาดวัฒนธรรม ย่านวังหน้า ร.ศ.241 มีการนำเสนอ

- คิดถึงวันวาน ย่านวังหน้า : ลิ้มรสอาหารอร่อยแบบไทยโบราณ ของอร่อยประจำย่าน  อุดหนุนงานหัตถศิลป์ เครื่องหอม เครื่องประดับ งานปั้น งานจักสาน  และสินค้าเด่น 


- เสน่ห์ย่านท่าพระจันทร์ : พบแพทย์แผนไทย นวดบำบัด ตำรับยาโบราณ พยากรณ์ดวงชะตา เลือกซื้อของเก่าของสะสม 

- Workshop & DIY : จัดดอกไม้ถวายพระ จัดพานพุ่ม จัดโต๊ะหมู่บูชา ร้อยมาลัย

- สอยกัลปพฤกษ์ : อธิษฐานจิตรับรางวัลจากต้นกัลปพฤกษ์ สัญลักษณ์แห่งความสมบูรณ์ 



- ประวัติศาสตร์นอกห้องเรียน : ย้อนไปวันวาน เรื่องเล่าย่านวังหน้า ภาพเก่าเล่าเรื่อง 

- เสริมศิริมงคล : จำหน่ายชุดสังฆทาน ไทยทาน ถวายพระ ของฝาก สำหรับญาติผู้ใหญ่ หรือบุคคลที่เคารพรัก เลือกของขวัญปีใหม่ 


- กิจกรรมเสบียงบุญ : ถวายสังฆทานพระสงฆ์, บริจาคร่วมบุญบูรณปฎิสังขรณ์วัด 339 บาท รับพระสมเด็จอรหัง เป็นที่ระลึกเพื่อการบูชา ตารางกิจกรรมงานโดยละเอียดได้ที่.. เฟซบุ๊ก : งานสมโภชพระอารามหลวง 338 ปี วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ https://www.facebook.com/watmahathatu338/ 

จึงใคร่ขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนเข้าร่วมงาน และเข้าร่วมกิจกรรม เจริญจิตตภาวนา สวดมนต์ข้ามปีเจริญสมาธิรวมใจไทยพร้อมกันทั่วโลก เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว 72 พรรษา  ในปี พ.ศ.2567 ซึ่งจะมีการแจกเทียน LED ให้แก่นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวงานในคืนวันที่ 31 ธันวาคม 2566 


เชิญร่วมเสบียงบุญเกื้อหนุนพระศาสนา

พร้อมขอเชิญร่วมสั่งสมเสบียงบุญ เกื้อหนุนพระศาสนา ร่วมเฉลิมฉลองสมโภช 338 ปี วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ราชวรมหาวิหาร พระอารามหลวงแห่งแรกแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ โดยการบูรณปฏิสังขรณ์ ปรับภูมิทัศน์วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ให้งามสง่าสืบไป ร่วมบุญตามกำลังศรัทธาได้ที่ : ธนาคารกรุงเทพ บัญชี วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ สมโภชพระอาราม เลขที่บัญชี 905-0-22750-4 บริจาคทรัพย์ 339 บาท รับพระสมเด็จอรหัง 1 องค์ เป็นที่ระลึกเพื่อการบูชา (ไปรษณีย์ไทยจัดส่งถึงบ้าน) สอบถามเพิ่มเติม : โทร. 063-213-5083, 063-213-3960 และส่งหลักฐานการโอนเงินและที่อยู่จัดส่งพระได้ที่ : Line ID : @watmahathatu338




Wednesday, November 29, 2023

วธ. จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระราชกุศล พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ 5 ธันวาคม ทั่วประเทศ

นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) กล่าวว่า กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนา จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์และกิจกรรมจิตอาสาบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ ถวายพระราชกุศล พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ 5 ธันวาคม เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณที่มีต่อพสกนิกรชาวไทย โดยร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ตลอดจนพสกนิกรทุกหมู่เหล่าทั่วประเทศ 
ร่วมกันสวดเจริญพระพุทธมนต์บำเพ็ญกุศลถวายพระราชกุศลฯ ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค โดยในส่วนกลางร่วมกับวัดพระราม 9 กาญจนาภิเษก จัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติถวายพระราชกุศล ในวันอังคารที่ 5 ธันวาคม 2566 ประกอบด้วย พิธีเจริญพระพุทธมนต์ และสดับปกรณ์ (พิธีการทอดผ้าบังสุกุล) กิจกรรมจิตอาสาทำความสะอาดลานวัด ศาลาการเปรียญ พระอุโบสถ ห้องน้ำ-ห้องสุขา และตัดแต่งกิ่งไม้ภายในบริเวณวัด 
สำหรับส่วนภูมิภาค ได้สนับสนุนสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดทั่วประเทศ ดำเนินการจัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์เช่นเดียวกับส่วนกลาง และจัดกิจกรรมตามวันเวลาและสถานที่ตามความเหมาะสมในพื้นที่ อาทิ กิจกรรมพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ กิจกรรมจิตอาสาบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ จัดนิทรรศการหรือจัดทำวีดิทัศน์น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ และกิจกรรมเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ นอกจากนี้ ได้ขอความร่วมมือให้สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดทั่วประเทศ ใช้ดอกดาวเรืองหรือดอกไม้สีเหลืองจัดทำพานพุ่มและตกแต่งสถานที่ประกอบพิธี 
ซึ่งดอกดาวเรืองเป็นดอกไม้ประจำพระองค์ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มีสีเหลืองตรงกับ “วันจันทร์” ซึ่งเป็นวันพระบรมราชสมภพ แสดงถึงพระจริยวัตรอันงดงามของพระองค์ ที่เรียบง่ายและพอเพียง และถือเป็นต้นไม้มงคลที่เชื่อกันว่าเป็นดอกไม้ที่มาจากสรวงสวรรค์ หากปลูกไว้ก็จะนำมาซึ่งความเจริญรุ่งเรืองแก่ตนเองและครอบครัว มีความอยู่ดี กินดี และอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข 
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวต่ออีกว่า ตลอดรัชสมัยของพระองค์ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการ ทรงอุทิศพระองค์เพื่อประโยชน์สุขของราษฎร ทุกหนทุกแห่งบนผืนแผ่นดินไทยที่รอยพระบาทได้ประทับลง เป็นไปเพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ของอาณาประชาราษฎร์ และพัฒนาประเทศชาติให้เจริญรุ่งเรือง จึงขอเชิญชวนพสกนิกรทุกหมู่เหล่า ร่วมกันทำความดีถวายพระราชกุศล อันเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดี และน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ที่พระองค์ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการ เพื่อให้ประชาชนของพระองค์มีความอยู่ดีกินดี มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น 
อีกทั้งเป็นการส่งเสริมให้ศาสนิกชนทุกคนได้ร่วมรำลึกถึงพระบรมราโชวาท น้อมนำมาปรับใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวัน มีจิตอาสาเสียสละ มุ่งประโยชน์ส่วนรวม ช่วยเหลือกันและกัน อยู่ร่วมกันอย่างสามัคคี