Saturday, July 19, 2025

JBO กีฬา ชวนแฟนลูกหนังเชียร์ นักเตะไทยคว้าแชมป์อาเซียน



   
      JBO กีฬา ชวนแฟนลูกหนังร่วมเป็นครอบครัวเดียวกัน พร้อมตามติดชีวิตนักเตะ หนุ่มไทยชุดยู 23 (อายุไม่เกิน 23 ปี) ไล่ล่าแชมป์อาเซียน ร่วมส่งแรงใจ ด้วยการชม และเชียร์  ด้วยการสมัครสมาชิกกับ JBO กีฬา เพื่อลุ้นรับเสื้อฟุตบอลทีมชาติไทยฟรีทันที เพียงร่วมทายผล การแข่งขันผ่านหน้าเว็บไซต์ การันตี แจกหนักแจกจริงกับ JBO กีฬา ด้านสายเกมเมอร์ร่วมเล่นอีฟุตบอลไปกับ JBO อีสปอร์ต ได้อีกด้วย

     ความเคลื่อนไหวของทีมฟุตบอลชาย ทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ที่มีโปรแกรมลงแข่งขัน ในศึกชิงแชมป์อาเซียน 2025 ระหว่างวันที่ 15-29 กรกฎาคมนี้ ที่อินโดนีเซีย เป็นเจ้าภาพ ซึ่งทีมชาติไทย อยู่ในกลุ่มซี ร่วมกับ ติมอร์ เลสเต และ เมียนมา ทาง JBO กีฬา ได้เกาะติดทีมชาติไทย ด้วยการจัด JBO โปรโมชั่น สำหรับให้สมาชิกได้ติดตาม พร้อมมีโปรโมชั่นดีๆให้สมาชิก JBO ได้เลือกอีกมากมาย อาทิ โบนัสแรกเข้า โปรโมชั่นแนะนำเพื่อน เงินคืนรายวัน และอื่นๆ 

    ความพร้อมของทีมฟุตบอลชายทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ก่อนเริ่มแข่ง มีการอุ่นเครื่อง กับสโมสรโปลิส เทโร โดยแบ่งออกเป็น 2 ครึ่ง ครึ่งละ 45 นาที โดยไม่มีการประกาศ ผลการแข่งขันอย่างเป็นทางการ เน้นทดสอบระบบการเล่น การหมุนเวียนผู้เล่น และการวางแท็กติกตามแผน ของทีมสตาฟฟ์โค้ช ที่นำโดย "โค้ชวัง" ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล ที่เน้นทั้งแท็กติกเกมรุก และรับให้กับทีมชาติไทย

     จากนั้น ได้เดินทางไปประเทศอินโดนีเซีย เพื่อเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอล ชิงแชมป์อาเซียน ยู 23 ปี ระหว่างวันที่ 15–29 กรกฎาคม 2568 ที่ อินโดนีเซียเป็นเจ้าภาพ โดยทีมชาติไทย จะแข่งขันที่สนามแพทริออต คันดราบากา สเตเดียม  โดย นัดแรกจะพบกับ ติมอร์ เลสเต และนัดที่ 2 พบกับ มียนมา ความหวังของรายการนี้ ทีมไทยหวังสร้างผลงาน ให้ดีที่สุดในทัวร์นาเมนต์ระดับภูมิภาค


     กิตติพัฒน์ กุลภา แบ็คซ้ายของทีมชาติไทย ยู 23 ให้สัมภาษณ์ว่า “ตอนนี้ทุกคนในทีมมีความพร้อมเกินร้อยครับ โค้ชเน้นแทคติกละเอียด โดยเฉพาะเรื่องการผ่านบอล ทุกคนพยายามทำตามแผน เป้าหมายของเราชัดเจนครับ คือแชมป์เท่านั้น ทุกคนมุ่งมั่นมาก และอยากฝากแฟนบอลช่วยเชียร์ทีมไทย ยู 23 กันเยอะๆ ครับ”

    ภัทรพล ศึกษากิจ กองหลังของทีมชาติไทย ยู 23 ได้ให้สัมภาษณ์ว่า" ตอนนี้สภาพร่างกายของทุกคนถือว่าสมบูรณ์ 100% ไม่มีใครบาดเจ็บ พอมาถึงอินโดนีเซียก็ได้พักกันพอสมควร เพื่อเตรียมตัวให้พร้อม รายการนี้ถือเป็นอีกหนึ่งความท้าทาย และผมจะพยายามนำประสบการณ์ จากการติดทีมชุดก่อนหน้ามาช่วยเพื่อนๆ ให้ได้มากที่สุด"

    ทั้งนี้ ระบบการแข่งขันเริ่มต้นจาก รอบแบ่งกลุ่มจะคัดเอา ทีมแชมป์กลุ่มทั้ง 3 กลุ่ม และทีมอันดับ 2 ที่มีผลงานดีที่สุด 1 ทีม ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 25 กรกฎาคม และตามด้วยนัดชิงชนะเลิศในวันที่ 29 กรกฎาคม 2568 ที่สนาม เกโลรา บุง การ์โน สเตเดียม กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย

    ผลงานในปีที่ผ่านมา ทีมชาติไทย ยู 23 จบอันดับ 3 ของรายการ ทำให้ทัพช้างศึกในปีนี้ ตั้งเป้าหมาย ต้องการทำผลงานให้ดีกว่าเดิม ภายใต้การนำทีมของกุนซือ ประสบการณ์สูงอย่าง "โค้ชวัง" ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล 

รายชื่อนักเตะทีมชาติไทยชุดยู 23
- ศิรัสวุฒิ วงค์เรือนคำ สโมสร เชียงราย ยูไนเต็ด
- ชมพัฒน์ บุญเลิศ สโมสร ชลบุรี เอฟซี
- ศิศรวัสย์ โพธิ์สมัน สโมสร สงขลา 
- พิชิตชัย เศียรกระโทก สโมสร โปลิศ เทโร
- ชนภัช บัวพันธ์ สโมสร บีจี ปทุม ยูไนเต็ด
- กิตติพัฒน์ กุลภา สโมสร ระยอง
- สพล น้อยวงษ์ สโมสร โปลิศ เทโร
- ธีร์กวิน จันทร์ศรี สโมสร เมืองทอง ยูไนเต็ด
- พลเอก มณีกร เจนเซ่น สโมสร พีที ประจวบ
- ภัทรพล ศึกษากิจ สโมสร สุโขทัย
- สิรภพ วันดี สโมสร ชลบุรี เอฟซี 
- ธนกฤต ละออไขย์ สโมสร ติอาโม่ ฮิรากาตะ
- สิทธา บุญหล้า สโมสร การท่าเรือ
- เสกสรรค์ ราตรี สโมสร ระยอง
- ชวัลวิทย์ แซ่เล้า สโมสร พราม แบงค็อก
- ชัยพล อดทน สโมสร สุโขทัย เอฟซี
- สงครามสมุทร น้ำผึ้ง สโมสร โปลิส เทโร
- นรากรณ์ แก่งกระโทก สโมสร แบงค็อก ยูไนเต็ด
- ชินวัตร ประจวบมอญ สโมสร เชียงราย ยูไนเต็ด
- พันธมิตร ประพันธ์ สโมสร พีที ประจวบ
- ยศกร บูรพา สโมสร ฮัวกัง ยูไนเต็ด
- ธนาวุฒิ โพธิ์ชัย สโมสร หนองบัว พิชญ
- ธนวุฒิ โพธิ์ชัย สโมสร บีจี ปทุม ยูไนเต็ด

     สำหรับผู้ที่สนใจสมัคร เป็นสมาชิกกับ JBO กีฬา สามารถร่วมสนุก ลุ้นรางวัล พร้อมรับโปรโมชั่นดีๆ อีกมากมาย สมาชิกใหม่มีโปรโมชันพิเศษโดยเฉพาะ โดยทาง JBO กีฬา ได้จัดกิจกรรม เพื่อให้แฟนลูกหนัง ได้ร่วมชมและเชียร์ทีมชาติไทย พร้อมร่วมทายผลการแข่งขัน ลุ้นรับเสื้อฟุตบอลทีมชาติไทยฟรี เพื่อเป็นกำลังใจให้ไทยก้าวไปสู่เป้าหมาย แชมป์อาเซียน และครองความเป็นเจ้าแห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

     การแข่งขัน ครั้งนี้ นอกจากจะเป็นโอกาส ในการพาทีมชาติไทย กลับมาครองแชมป์อาเซียน อีกครั้ง ยังเป็นเวที ที่สะท้อนถึงความร่วมมือ ระหว่างนักเตะ แฟนบอล และพันธมิตรอย่าง JBO กีฬา ที่มาร่วมสร้างพลังการเชียร์บอลไทยให้กลับมาคึกคัก และ ทันสมัยยิ่งขึ้นในทุกช่องทาง สมาชิก JBO สามารถรับชมการถ่ายทอดสด ผ่านหน้าเว็บไซต์ JBO กีฬา 

     นอกจากนี้ สายเกมเมอร์ หรือแฟนอีสปอร์ต ยังสามารถร่วมสนุกกับ กิจกรรม JBO อีสปอร์ต ที่จำลองการแข่งขัน ของทีมชาติไทยในรูปแบบ อีฟุตบอล พร้อมเปิดลีกจำลอง ให้ผู้เล่นได้ทายผล แบบเรียลไทม์ เป็นการนำกีฬา แบบดั้งเดิม และโลกดิจิทัล มาผสมผสานอย่างสร้างสรรค์ ก้าวสู่โลกอนาคตด้วย JBO อีสปอร์ต

Thursday, July 3, 2025

ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ชวนเชียร์-ร่วมสนุกลุ้นแชมป์ศึกลูกหนังสโมสรโลก

 

     จากใจ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ อดีตศูนย์หน้าคนดังของทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และทีมชาติบัลแกเรีย ชวนแฟนบอลร่วมเชียร์ทีมเต็งแชมป์ใน การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก 2025 FIFA Club World Cup 2025 ที่ สหรัฐอเมริกา พร้อมร่วมกิจกรรมความสนุกลุ้นแชมป์

    ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ อดีตศูนย์หน้าคนดังของทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และทีมชาติบัลแกเรีย ที่ เคยสร้างผลงาน ในการรับใช้สโมสรแถวหน้ามาอย่างมากมาย นอกจาก  แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แล้วยังมี ทอตแนม ฮอทสเปอร์, และ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น สำหรับการรับใช้ทีมชาติบัลแกเรีย เป็นกัปตันทีมชาติบัลแกเรีย ที่เป็นดาวซัลโวสูงสุดของทีมชาติ และ เป็นหนึ่งในนักเตะบัลแกเรียที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล 

      ล่าสุด ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ เป็น แบรนด์แอมบาสเดอร์ ของ JBO ที่เป็นผู้ให้บริการสื่อบันเทิงและอีสปอร์ต รวมทั้งมีบทบาทในวงการกีฬาระดับโลก ด้วยการสนับสนุนสโมสรฟุตบอลโอลิมปิก มาร์กเซย

     ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ กล่าวว่า  “การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก 2025 FIFA Club World Cup 2025 ที่ สหรัฐอเมริกา เป็นการแข่งขันรูปแบบใหม่เป็นครั้งแรก อยู่ระหว่างการแข่งขันอยู่ในตอนนี้ ไปจนถึงวันที่ 13 กรกฎาคม 2568  โดย มี 32 ทีม เข้าแข่งขัน แบ่งเป็น 8 กลุ่ม กลุ่มละ 4 ชาติ โดย 2 อันดับแรกของแต่ละกลุ่มจะผ่านเข้าสู่รอบน็อคเอาท์ ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย รอบก่อนรองชนะเลิศ รอบรองชนะเลิศ และรอบชิงชนะเลิศ”

      “สำหรับ การแข่งขันรายการนี้ อยากเชิญชวน ผู้ชมกีฬาทุกๆ ชาติ โดยเฉพาะแฟนฟุตบอลทีมยุโรปให้ติดตามชมการแข่งขันฟุตบอลระดับสโมสรโลกรายการนี้ ซึ่งปีนี้มีหลายทีมเต็งร่วมรายการ และได้รับความสนใจจากแฟนบอลทั่วโลก ทาง แพลตฟอร์มเกมออนไลน์ JBO ที่จะมีการจัดกิจกรรมที่เกี่ยวข้องในช่วงการแข่งขันทัวร์นาเมนต์นี้”

           “หนึ่งในทีมที่เข้าแข่งขัน ที่เป็นทีมเต็ง เช่น เปแอสเช-ปารีส แซ็ง แฌร์แม็ง แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ทีมล่าสุด เป็นอีกหนึ่งทีมที่มีจุดเด่นในการเน้นเกมรุก ในรายการนี้ อยู่กลุ่มเดียวกับ แอตเลติโก มาดริด เที่ป็น ทีมขึ้นชื่อเรื่องเกมรับ ทั้งสองทีมมีสไตล์การเล่นที่แตกต่างกันชัดเจน หนึ่งทีมเน้นเกมรุก อีกทีมขึ้นชื่อเรื่องเกมรับ ซึ่งผลการแข่งขันในการเจอกันเป็นชัยชนะแบบถล่มทลายของ เปแอสเช อย่างไรก็ตามเกมลูกหนังอะไรก็เกิดขึ้นได้”

     “อีกหนึ่งทีมเต็ง 1  อย่างทีมเรอัล มาดริด เป็นทีมที่มีสไตล์การเล่นที่เน้นการโต้กลับ และใช้ประโยชน์จากความเร็วและทักษะของนักเตะในการทำเกมรุก ด้านทีมชั้นนำจากอังกฤษ แมนเชสเตอร์ ซิตี้  เป็นทีมที่เล่นฟุตบอลในรูปแบบที่เน้นการครองบอล การต่อบอลสั้น และการเคลื่อนที่อย่างชาญฉลาดของนักเตะ ขณะที่ ทีมบาเยิร์น มิวนิค เป็นทีมที่เน้นการรุกที่ดุดันและมีประสิทธิภาพ นี่คือทีมเต็งแชมป์ของรายการนี้”


Friday, June 27, 2025

สสว. ดัน Soft Power ผู้ประกอบการไทย จัดงาน “SME SHOW ของ” ฉลองวัน MSME DAY 27–29 มิ.ย. นี้ ณ จุฬา ซอย 5

  

กรุงเทพฯ — สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เตรียมจัดงาน “SME SHOW ของ : ตลาดนัดคนตัวเล็ก พื้นที่สร้างสรรค์ของคนมีของ” ระหว่างวันที่ 27–29 มิถุนายน 2568 ตั้งแต่เวลา 10.00–21.00 น. ณ จุฬา ซอย 5 เพื่อร่วมเฉลิมฉลองวันSME DAY  (Small and Medium-sized Enterprises Day) ซึ่งตรงกับวันที่ 27 มิถุนายนของทุกปี ตามที่องค์การสหประชาชาติประกาศให้เป็นวันแห่งการส่งเสริมผู้ประกอบการรายย่อยทั่วโลก คาดมีคนเดินไม่ต่ำ 10,000 คน !!!!

นางสาวปณิตา ชินวัตร รองผู้อำนวยการสำนักงาน รักษาการแทนผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เปิดเผยว่า การจัดงานในครั้งนี้มีเป้าหมายสำคัญในการส่งเสริมพลังความคิดสร้างสรรค์ของผู้ประกอบการไทย หรือที่เรียกว่า Soft Power ให้สามารถแปลงเป็นพลังทางเศรษฐกิจที่จับต้องได้อย่างเป็นรูปธรรม พร้อมทั้งสร้างเวทีให้ผู้ประกอบการได้แสดงผลงาน จำหน่ายสินค้า และสร้างโอกาสในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ ๆ ตลอดจนเพิ่มช่องทางทางการตลาดเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน

ภายในงานจะมีการจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าจากผู้ประกอบการรายย่อยหลากหลายประเภท ทั้งงานฝีมือ แฟชั่น อาหาร งานออกแบบ และนวัตกรรมที่สะท้อนอัตลักษณ์และศักยภาพของผู้ประกอบการไทย โดยเน้นความสร้างสรรค์และเอกลักษณ์เฉพาะตัวของแต่ละราย ซึ่งเป็นการแสดงออกถึงพลังของ Soft Power ในระดับชุมชนและรายบุคคลอย่างแท้จริง

https://youtube.com/shorts/4c-gjWi4ukc?si=mFySdKeGiYfS3cHT

อีกหนึ่งจุดเด่นของงานคือกิจกรรมเวทีเสวนา “Stand-Up Biz Talk” ที่รวบรวมผู้เชี่ยวชาญและผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จในหลากหลายแวดวง มาร่วมแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็น ดร. วิทย์ สิทธิเวคิน นักวิชาการด้านประวัติศาสตร์ที่มีบทบาทสำคัญในการถ่ายทอดมุมมองด้าน Soft Power ของไทย, คุณพศุตม์ บานแย้ม นักแสดงและผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจอาหาร และคุณเบียร์ จาก BUFF TALK พิธีกรและครีเอเตอร์ด้านธุรกิจที่เป็นแรงบันดาลใจของผู้ประกอบการรุ่นใหม่

นอกจากนี้ ภายในงานยังมีกิจกรรมส่งเสริมการจับจ่ายและสนับสนุนผู้ประกอบการ อาทิ การแจกหนังสือ “อารยะแข่งขัน” ผลงานเขียนของ ดร. วิทย์ สิทธิเวคิน ให้แก่ผู้เข้าร่วมงาน รวมถึงสิทธิ์ลุ้นรับส่วนลดเพื่อใช้จ่ายกับร้านค้าภายในงาน เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อและสร้างประสบการณ์เชิงบวกในการสนับสนุนผู้ประกอบการไทย

https://www.facebook.com/share/v/1Xvz19DHjk/

พร้อมกันนี้ สสว. ยังได้ยกระดับการให้บริการออนไลน์ให้สะดวกและรวดเร็วมากขึ้น ผ่านแอพพลิเคชัน SME CONNEXT ซุปเปอร์แอพสำหรับ SME ง่าย ครบ จบในแอพเดียว ซึ่งผู้ประกอบการสามารถติดตามข่าวสาร กิจกรรม การสมัครเข้าร่วมโครงการ และสามารถเชื่อมต่อไปยังบริการออนไลน์อื่นๆ ของ สสว. ได้  พร้อมยกระดับการให้บริการด้วย SME ONE ID ที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าสิทธิประโยชน์จากภาครัฐได้สะดวกยิ่งขึ้นในยุคดิจิทัล อันเป็นอีกหนึ่งแนวทางในการยกระดับความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการไทยในระยะยาว

https://vt.tiktok.com/ZSBdmcPwE/


https://youtube.com/shorts/3bhzC3lXK-A?si=FOKBZRcbNXFhvyI6

สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมคาดว่า งาน “SME SHOW ของ” ครั้งนี้จะมีผู้เข้าร่วมงานไม่ต่ำกว่า 10,000 คนทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ที่สำคัญงานนี้ไม่เพียงเป็นงานแสดงสินค้าและแนวคิดสร้างสรรค์ของผู้ประกอบการเท่านั้น หากแต่จะเป็นกลไกสำคัญในการผลักดัน SMEs ไทยให้เติบโตอย่างมั่นคง และมีส่วนร่วมในการเสริมสร้างเศรษฐกิจฐานรากที่เข้มแข็งต่อไป


Monday, February 17, 2025

สานพลังเครือข่ายวิจัย ในมหกรรมงานวิจัยส่วนภูมิภาค ครั้งที่ 13 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ Regional Research Expo 2025

  


กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม โดย สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช.) 

ร่วมกับมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ และเครือข่ายวิจัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จัดมหกรรมงานวิจัยส่วนภูมิภาค ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประจำปี 2568 (Regional Research Expo 2025) เป็นการในส่วนภูมิภาคในครั้งที่ 13 ภายใต้แนวคิด

 "สานพลังเครือข่าย พลังภูมิปัญญาท้องถิ่นเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม การศึกษาและสิ่งแวดล้อม ด้วยงานวิจัยนวัตกรรมและเทคโนโลยี สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน" โดยได้รับเกียรติจาก นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นายศุภชัย ใจสมุทร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจํากระทรวง อว. แพทย์หญิง เพชรดาว โต๊ะมีนา ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวง อว. รองศาสตราจารย์ มาลิณี จุโฑปะมา อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฎบุรีรัมย์ นายจำเริญ แหวนเพ็ชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ รองศาสตราจารย์ ดร.คมเพชร ฉัตรศุภกุล นายกสภามหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ เข้าร่วมงาน และ ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวรายงาน ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์

นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รมว.อว. กล่าวว่า มหกรรมงานวิจัยส่วนภูมิภาคครั้งนี้ จัดขึ้นโดยสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) และมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ผลงานวิจัยและนวัตกรรมแก่ภูมิภาคต่าง ๆ ของประเทศ ผ่านการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างสถาบันการศึกษา หน่วยงานภาครัฐ และองค์กรภาคประชาสังคมกว่า 40 หน่วยงาน โดยมุ่งเน้นการพัฒนาทางเศรษฐกิจ สังคม การศึกษา และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนด้วยงานวิจัย นวัตกรรม และเทคโนโลยี และคาดหวังว่างานนี้จะเป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้เกิดการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และสร้างเครือข่ายที่เข้มแข็งเพื่อประโยชน์ต่องานวิจัยและนวัตกรรมที่จะต่อยอดนำไปพัฒนาประเทศชาติต่อไป

ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวถึงจุดประสงค์ของการจัดงานมหกรรมงานวิจัยส่วนภูมิภาคครั้งนี้ว่าเพื่อเป็นการขยายการใช้ประโยชน์จากงานวิจัยในภูมิภาค ซึ่ง วช. ได้เริ่มดำเนินงานมาตั้งแต่ปี 2556 และได้รับความร่วมมือจากมหาวิทยาลัยในแต่ละภูมิภาคเป็นเจ้าภาพร่วมจัดงาน เพื่อเป็นการส่งเสริมการแลกเปลี่ยนความรู้และพัฒนางานวิจัย โดยในปีนี้ได้รับความร่วมมือจากมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์และหน่วยงานเครือข่ายภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภายใต้แนวคิด "สานพลังเครือข่าย พลังภูมิปัญญาท้องถิ่นเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม การศึกษาและสิ่งแวดล้อม ด้วยงานวิจัย นวัตกรรม และเทคโนโลยี สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน" ซึ่งมุ่งเน้นการแสดงศักยภาพการวิจัยในภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือและการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เพื่อขยายผลการใช้ประโยชน์ในระดับภูมิภาค

รองศาสตราจารย์มาลิณี จุโฑปะมา อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ กล่าวว่า งานมหกรรมงานวิจัยส่วนภูมิภาคครั้งนี้ เป็นเวทีสำคัญในการเชื่อมโยงงานวิจัย นวัตกรรม และองค์ความรู้จากสถาบันการศึกษาและหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมการพัฒนาท้องถิ่นและประเทศชาติ โดยมหาวิทยาลัยได้รับความไว้วางใจจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ให้เป็นเจ้าภาพจัดงานครั้งนี้ และมีความพร้อมทั้งด้านสถานที่ บุคลากร และการอำนวยความสะดวกต่าง ๆ มหาวิทยาลัยยังมุ่งหวังว่า งานในครั้งนี้จะเป็นโอกาสในการแลกเปลี่ยนความรู้และสร้างเครือข่ายความร่วมมือในการพัฒนางานวิจัยและนวัตกรรมอย่างยั่งยืนเพื่อสังคมและเศรษฐกิจที่ดีขึ้นในอนาคต

โดยกิจกรรมภายในงานมหกรรมงานวิจัยส่วนภูมิภาค 2568 มีดังนี้

1. นิทรรศการผลงานวิจัย ประกอบด้วย นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระเจ้าอยู่หัวฯ (ร.10) นิทรรศการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) และนิทรรศการผลงานวิจัย 6 กลุ่มประเด็น ได้แก่ การยกระดับและพัฒนาการศึกษา การจัดการและพัฒนาสิ่งแวดล้อม การยกระดับและพัฒนาคุณภาพชีวิต การพัฒนาด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม 

การยกระดับและพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก และภูมิปัญญาวัฒนธรรมสร้างสรรค์สู่การสร้างมูลค่าเพิ่ม

2. กิจกรรมภาคการประชุมวิชาการในประเด็นสำคัญของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 10 ประเด็น อาทิ การแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคมสู่การแก้ไขความยากจน, การประยุกต์ใช้ระบบ SMART CITY กับพื้นที่เมืองและชุมชน, การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำแล้งและน้ำท่วม, ภูมิปัญญาการละเล่นและประเพณีท้องถิ่นสู่การสร้าง Soft Power 

3. การจัดแสดงสินค้าและผลิตภัณฑ์ชุมชนกว่า 40 แห่งจาก 23 อำเภอ ของจังหวัดบุรีรัมย์ อาทิ 

ผักปลอดภัย ผลไม้ ข้าวอินทรีย์ ของกิน ของใช้ เสื้อผ้ากระเป๋า 

4. กิจกรรม Highlight Stage  

- การบรรยายพิเศษ เรื่อง "แบบอย่างการพัฒนาเมืองหรือพื้นที่ นวัตกรรมทางการศึกษาควรเป็นอย่างไร" โดย ศาสตราจารย์ ดร.ชรินทร์ มั่งคั่ง ศาสตราจารย์ ดร.ศุภชัย สิงห์ยะบุศย์ และผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อุบลวรรณ หงส์วิทยากร

- การบรรยายพิเศษ เรื่อง "อนาคตพื้นที่อีสานสู่ศูนย์กลางเศรษฐกิจอาเซียน" โดย รองศาสตราจารย์ 

ดร.นิพนธ์ พัวพงศกร สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI.) 

5. กิจกรรมประกวดผลงานวิจัยและนวัตกรรมดีเด่น 5 รางวัล 

มหกรรมงานวิจัยส่วนภูมิภาคเป็นการบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานเครือข่ายในระดับภูมิภาค โดยประสานความร่วมมือกับทั้ง 4 ฝ่าย คือ หน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานวิจัยและนักวิจัย ภาคเอกชน และภาควิสาหกิจและชุมชน เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนการขยายผลงานวิจัยและนวัตกรรม สู่การใช้ประโยชน์ในภูมิภาคให้ครอบคลุม ตลอดจนพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทั้งนี้ ขอเชิญชวนผู้ที่สนใจเข้าร่วมงานมหกรรมงานวิจัยส่วนภูมิภาค ประจำปี 2568 ณ บริเวณหอประชุมวิชชาอัตศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ สามารถเยี่ยมชมได้ตั้งแต่วันนี้ – 18 กุมภาพันธ์ 2568

Monday, December 16, 2024

ปปท.พร้อมเร่งตรวจสอบ หลัง นายก่อเกียรติ พาณิชยารมณ์ อดีตโปรโมเตอร์มวยโลก เข้าร้องเรียน ขสมก. จับมือ บ.โฆษณายักษ์ "พ" โกง

 


   ก่อเกียรติ พาณิชยารมณ์ อดีตโปรโมเตอร์มวยโลกและผู้ก่อตั้ง บริษัท ก่อเกียรติ กรุ๊ป จำกัด ยกระดับเปิดโปงองค์กรภาครัฐร่วม"ทุจริต" บริษัทสื่อยักษ์ใหญ่อักษรย่อ"พ" ด้วยการเข้ายื่นหนังสือต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท.ท่ามกลางความสนใจของสื่อมวลชน

     วันนี้ ( 16 ธ.ค 67 ) ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ ( ป.ป.ท.) ถนนแจ้งวัฒนะ  "เสี่ยโก้" ก่อเกียรติ พาณิชยารมณ์ อดีตโปรโมเตอร์มวยโลก และเจ้าของผู้ก่อตั้ง บริษัท ก่อเกียรติ กรุ๊ป จำกัด ที่กำลังเป็นที่รู้จักแพร่หลายของโลกข้อมูลข่าวสารจากการเดินสายเรียกร้องหาความเป็นธรรมไปยื่นหนังสือต่อหลายองค์กรอิสระที่ทำหน้าที่ตรวจสอบการทุจริตคอร์รัปชั่น

 จากกรณีที่ บริษัท ก่อเกียรติ กรุ๊ป จำกัด เป็นผู้ได้รับสัมปทานบนรถ ขสมก.แต่กลับพบการร่วมทุจริตระหว่างหน่วยงานภาครัฐและสื่อโฆษณายักษ์ใหญ่อักษรย่อ"พ" ร่วมกันปลอมแปลงเอกสารสำคัญ เพื่อเปลี่ยนแปลงสัมปทานโดยไม่ชอบด้วยกฏหมายก่อให้เกิดความเสียหายต่อ บริษัท ก่อเกียรติ กรุ๊ป จำกัด กว่า 5,000 ล้านบาท ซึ่งใจความสำคัญในการปลอมแปลงเอกสารสำคัญยังซ้ำเติมผู้เสียหาย ( บริษัท ก่อเกียรติ กรุ๊ป จำกัด ) ด้วยการให้เป็นผู้รับผิดชอบกรณีการขาดทุนที่จะเกิดขึ้นในเวลาอีก 10 ปี 

     ในวันนี้นายก่อเกียรติ พาณิชยารมณ์ อดีตโปรโมเตอร์มวยโลกผู้ก่อตั้ง บริษัท ก่อเกียรติ กรุ๊ป จำกัด ตัดสินใจยกระดับการเรียกร้องกรณีหน่วยงานภาครัฐร่วม "ทุจริต"กับบริษัทสื่อยักษ์ใหญ่อักษรย่อ"พ" ด้วยการเดินทางมายังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. เพื่อยื่นหนังสือต่อนายภูมิวิศาล เกษมสุข เลขาธิการฯคณะกรรมการ ป.ป.ท. ที่เห็นความสำคัญของกรณีทุจริตดังกล่าว และลงมารับหนังสือจากมือนายก่อเกียรติ พาณิชยารมณ์ ด้วยตนเอง โดยนายภูมิวิศาล เกษมสุข เลขาธิการฯคณะกรรมการ ป.ป.ท.กล่าวหลังได้ข้อมูลจาก นายก่อเกียรติ พาณิชยารมณ์ ว่าทางคณะกรรมการ ป.ป.ท.พร้อมเร่งดำเนินการตรวจสอบข้อมูลหลักฐานให้เสร็จก่อนสิ้นปีนี้ เพื่อดำเนินการตามกฏหมายต่อไปหากตรวจสอบพบการกระทำผิดจริง

     นายก่อเกียรติ พาณิชยารมณ์ กล่าวหลังการยื่นหนังสือต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท.ว่า "ตนยังคงเชื่อมั่นในการทำงานภาคการตรวจสอบขององค์กรอิสระต่างๆที่ทำหน้าที่เปิดโปงการทุจริตคอร์รัปชั่น

 ที่จะทำให้ผู้เสียหายได้รับความเป็นธรรมไม่ใช่แค่กรณีของตนเอง แต่ยังมีอีกหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและมีผู้เสียหายที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการทุจริตในภาครัฐอีกหลายกรณี ซึ่งตนเองยังมีข้อมูลเด็ดที่จะทยอยเปิดเผยให้พี่น้องสื่อมวลชนที่สนใจให้รับทราบเพิ่มเติมในช่วงสุดสัปดาห์นี้อีกครั้ง

Wednesday, December 11, 2024

กระทรวงอุตฯ ชู 41 องค์กรต้นแบบ เตรียมรับรางวัลจากนายกรัฐมนตรี ในงานมอบ "รางวัลอุตสาหกรรม ประจำปี 2567"

 


กรุงเทพฯ 11 ธันวาคม 2567 – นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม แถลงข่าวการเตรียมจัดงานพิธีมอบ "รางวัลอุตสาหกรรม ประจำปี 2567" ในวันที่ 18 ธันวาคมนี้ ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล โดยมี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้เกียรติเป็นประธานในการมอบรางวัลฯ เพื่อเชิดชูศักยภาพองค์กรต้นแบบ 41 แห่งทั่วประเทศ เพื่อให้ภาคอุตสาหกรรมได้ขับเคลื่อนตามนโยบาย “ปฏิรูปอุตสาหกรรมเศรษฐกิจยุคใหม่ ทันสมัย สะดวก สะอาด โปร่งใส” ผนวกกับแนวคิด MIND “อุตสาหกรรมเศรษฐกิจ” ที่ “เติบโตอย่างยั่งยืนคู่ชุมชน” ใน 4 มิติ พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศสู่ความเข้มแข็ง

นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรมเตรียมจัดงานมอบรางวัลอุตสาหกรรม ประจำปี พ.ศ. 2567 (The Prime Minister’s Industry Award 2024) ในวันที่ 18 ธันวาคมนี้ ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล โดยได้รับเกียรติจากนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้เกียรติเป็นประธานมอบรางวัลให้แก่สถานประกอบการที่มีความเป็นเลิศ ทั้งในด้านการเพิ่มผลผลิต คุณภาพ ความปลอดภัย การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและพลังงาน โลจิสติกส์และโซ่อุปทาน อุตสาหกรรมและบริการแห่งอนาคต ความรับผิดชอบต่อสังคม เศรษฐกิจหมุนเวียน รวมถึงการพัฒนานวัตกรรมสร้างสรรค์ที่เป็นประโยชน์ต่อภาคอุตสาหกรรมโดยรวมของประเทศ นอกจากนี้ ยังเป็นการเชิดชูเกียรติ และเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้กับผู้ประกอบการที่พัฒนานวัตกรรมสร้างสรรค์ที่เป็นประโยชน์ต่อภาคอุตสาหกรรมและชุมชนโดยรวมของประเทศ 

การพิจารณารางวัลอุตสาหกรรมประจำปี พ.ศ. 2567 จะมุ่งเน้นให้รางวัลกับสถานประกอบการที่มุ่งสู่การพัฒนาและปรับเปลี่ยนการประกอบการภาคอุตสาหกรรม ตามนโยบาย “ปฏิรูปอุตสาหกรรมเศรษฐกิจยุคใหม่ ทันสมัย สะดวก สะอาด โปร่งใส” ภายใต้แนวคิด “อุตสาหกรรมเศรษฐกิจ” ที่ “เติบโตอย่างยั่งยืนคู่ชุมชน” โดยเน้นมาตรการและกลไกมุ่งสู่ความสำเร็จ 4 มิติ ประกอบด้วย มิติที่ 1 ความสำเร็จทางธุรกิจเปลี่ยนผ่านสู่อุตสาหกรรมเศรษฐกิจ มิติที่ 2 ความอยู่ดีกับสังคมโดยรวมส่งเสริมการทำงานร่วมกันระหว่างสถานประกอบการ ชุมชน และสังคมให้อยู่ร่วมกันอย่างเป็นมิตร มิติที่ 3 ความลงตัวกับกติกาสากล ดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมสู่อุตสาหกรรมสีเขียว เพื่อโอกาสทางธุรกิจมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนตอบโจทย์ไทยและประชาคมโลก และมิติที่ 4 การกระจายรายได้สู่ชุมชนที่ตั้ง (กระจายรายได้ และสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน)

ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า สำหรับรางวัลอุตสาหกรรม ประจำปี พ.ศ. 2567 (The Prime Minister’s Industry Award 2023) มีจำนวน 14 ประเภทรางวัล มีผู้ได้รับรางวัลจำนวน ทั้งสิ้น 41 รางวัล และสถานประกอบการที่ได้รับรางวัลอุตสาหกรรมยอดเยี่ยม ได้แก่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด (โรงงานเกตเวย์) จังหวัดฉะเชิงเทรา สามารถดูรายชื่อผู้ได้รับรางวัลอุตสาหกรรม ประจำปี พ.ศ.2567 ได้ที่เว็บไซต์กระทรวงอุตสาหกรรม โดยแบ่งประเภทรางวัล ดังนี้

1. รางวัลอุตสาหกรรมยอดเยี่ยม (The Prime Minister’s Best Industry Award) จำนวน 1 รางวัล ซึ่งคัดเลือกจากสถานประกอบการที่เคยได้รับรางวัลอุตสาหกรรมดีเด่นมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ประเภท และเป็นสถานประกอบการที่มีการพัฒนาศักยภาพขีดความสามารถในการแข่งขันเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีมาตรฐานการผลิตในระดับสากล 

2. รางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น (The Prime Minister’s Industry Award) จำนวน 23 รางวัล แบ่งเป็น 9 ประเภท ประกอบด้วย 1) ประเภทการเพิ่มผลผลิต จำนวน 7 รางวัล 2) ประเภทการรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม จำนวน 1 รางวัล 3) ประเภทการบริหารความปลอดภัย จำนวน 1 รางวัล 4) ประเภทการบริหารงานคุณภาพ จำนวน 2 รางวัล 5) ประเภทการจัดการพลังงาน จำนวน 2 รางวัล 6) ประเภทการจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทาน จำนวน 1 รางวัล 7) ประเภทอุตสาหกรรมและบริการแห่งอนาคต จำนวน 6 รางวัล 8) ประเภทความรับผิดชอบต่อสังคม จำนวน 1 รางวัล และ 9) ประเภทเศรษฐกิจหมุนเวียน จำนวน 2 รางวัล

3. รางวัลอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อมดีเด่น (The Prime Minister’s Small and Medium Industry Award) จำนวน 17 รางวัล แบ่งเป็น 4 ประเภท ได้แก่ 1) ประเภทการบริหารจัดการที่ดี จำนวน 3 รางวัล 2) ประเภทการพัฒนาผลิตภัณฑ์เชิงสร้างสรรค์ จำนวน 7 รางวัล 3) ประเภทการจัดการเทคโนโลยีเชิงนวัตกรรม จำนวน 5 รางวัล และ 4) ประเภทบริหารธุรกิจสู่สากล จำนวน 2 รางวัล  

นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า กระทรวงอุตสาหกรรม มอบหมายให้ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพร้อม เป็นหน่วยงานหลักในการจัดงานรางวัลอุตสาหกรรม ประจำปี พ.ศ. 2567 

โดยมีสถานประกอบการให้ความสนใจสมัครเข้ารับการคัดเลือก จำนวนทั้งสิ้น 162 ราย แบ่งเป็นรางวัลอุตสาหกรรมยอดเยี่ยม จำนวน 4 ราย รางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น และรางวัลอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม ทั้ง 13 ประเภท รวม 158 ราย ซึ่งในปีผู้ได้รับรางวัลอุตสาหกรรมยอดเยี่ยมยังได้รับรางวัลพิเศษ ทูตอุตสาหกรรมภาคเอกชน หรือ MIND Ambassador ซึ่งรางวัลนี้เปรียบเสมือนตัวแทนของกระทรวงอุตสาหกรรมจากภาคเอกชนที่จะเป็นต้นแบบการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันภาคอุตสาหกรรมที่ดีและอยู่คู่กับชุมชนอย่างยั่งยืน รวมถึงเป็นหน่วยงานกลาง ในการประสานความร่วมมือกับภาคอุตสาหกรรมและส่งเสริม สร้างภาพลักษณ์ที่ดีผ่านการดำเนินโครงการ/กิจกรรม ตลอดจนช่วยประชาสัมพันธ์ ข้อมูลข่าวสาร และบริการของหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงอุตสาหกรรมอีกด้วย

ทั้งนี้ การปฏิรูปอุตสาหกรรมเศรษฐกิจยุคใหม่นั้นส่งผลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ โดยภาคอุตสาหกรรมจำเป็นต้องพัฒนายกระดับศักยภาพ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้ทัดเทียมกับนานาประเทศ โดยกิจกรรมหนึ่งที่สนับสนุนให้ภาคอุตสาหกรรมตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาศักยภาพอย่างต่อเนื่อง คือ การจัดงานมอบรางวัลอุตสาหกรรม โดยกระทรวงอุตสาหกรรมมุ่งหวังให้เกิดการพัฒนาสถานประกอบการอย่างมีศักยภาพ เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการผลิตของภาคอุตสาหกรรมและเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันทางการค้า ซึ่งจะทำให้ “อุตสาหกรรมเศรษฐกิจ” ที่ “เติบโตอย่างยั่งยืนคู่ชุมชน” ต่อไป 

นายสมคิด ประดิษฐกำจรชัย รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ (กลุ่มงานการผลิต) บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า โตโยต้ามีแนวทางการดำเนินบทบาทในฐานะทูตอุตสาหกรรมภาคเอกชน หรือ MIND Ambassador โดยนอกเหนือจากการเป็นผู้ผลิตรถยนต์ที่ดีแล้ว โตโยต้ายังมีความมุ่งมั่นที่จะสร้างหนทางสู่การเป็นองค์กรแห่งการขับเคลื่อนในอนาคตที่ยั่งยืน ซึ่งแนวคิดขององค์กรแห่งการขับเคลื่อนนี้ จะต้องเป็นไปอย่างสมดุล ระหว่างการเจริญเติบโตทางธุรกิจกับการพัฒนาที่ยั่งยืน คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม และสังคม หมุดหมายปลายทางด้านสิ่งแวดล้อมที่ตั้งเป้าไว้คือการบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนด้านสังคม โตโยต้ายังคงมุ่งมั่นที่จะมอบความสุขและรอยยิ้มกับคนไทยทุกคน  


Saturday, December 7, 2024

เชิดชูเกียรติ ทหารผ่านศึกเกาหลี และทายาท

 

บาทหลวง ปาร์ค ยอง ซาง  ประธานมูลนิธิร่มพระพรเพื่อเด็กและเยาวชน  ตั้งอยู่ที่ จ.สมุทรปราการ  

ร่วมกับ ประธานหมู่บ้านสันติภาพสหประชาชาติ จากสาธารณรัฐเกาหลี  จัดทำเหรียญเชิดชูเกียรติ เพื่อนำมามอบให้แก่  ทหารผ่านศึกเกาหลี และทายาทที่มารับแทน  จำนวน 35 คน เพื่อเป็นการตอบแทนบุญคุณทหารไทย ในอดีต

ที่ไปช่วยเกาหลีใต้ ทำสงครามในนาม สหประชาชาติ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2493 ไปจำนวน 23 รุ่น  


และทหารไทย มีความเก่งกาจ อดทน จนเป็นที่ยอมรับของนานาชาติ 





 จนได้รับฉายาว่าเป็น  กองพันพยัคฆ์น้อย (Little Tiger) ความช่วยเหลือของชาวเกาหลี มีมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเปรียบเสมือน  "ไทย-เกาหลี  เป็นพี่น้อง ที่ไม่ทอดทิ้งกัน ชั่วนิรันดร์"



#สโมสรนายทหารสัญญาบัตร กองทัพอากาศ ดอนเมือง