Saturday, September 21, 2024

❝BKK-เรนเจอร์ YOUTHTHOPIA รวมพลังเด็กเปลี่ยนเมือง! @ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ❞ 🥁🎵

กลับมาอีกครั้ง กับ การร่วมสร้างเมืองในฝันของเด็กและเยาวชนใน ‘เทศกาล BKK-เรนเจอร์ YOUTHTHOPIA  รวมพลังเด็ก’ ตั้งแต่วันที่  26-29 กันยายน 2567 @ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร  ตั้งแต่เวลา 15.00 เป็นต้นไป!


📢 เปิดลงทะเบียนร่วมงานทั้งวัน และลุ้นรับของรางวัลที่ระลึกภายในงาน  


✨ พบกับเวที Main Stage ‘YOUTHTHOPIA!’ ที่ทุกคนรอคอย นักแสดง ศิลปินที่ชื่นชอบมาเวลาไหนไปดูกันเล้ยยย!


🟩 26 ก.ย. เวลา 15.00 เป็นต้นไป 🟩

📢 Main Stage  

- 17.00 -17.30  น. พิธีเปิดงาน  ปังๆ  อย่างเป็นทางการ 

- การแสดงโชว์ความสามารถ กับเมืองในฝันของเรา  Cover Dance / Talkshow  /วง Freedom school Band  /

✨✨✨Highlight +++   19.00 – 20.00 น.  พบกับ  Rainy  Room

📢 กิจกรรมห้องออดิทอเรี่ยม ชั้น 5 

18.00 - 18.30 น. การแสดงละครใบ้ จากทีม Urban Street Bangkok 

18.30 - 19.00 น. การแสดงละครใบ้ จาก BABYMIME SHOW


🟧 27 ก.ย. 15.00 เป็นต้นไป 🟧

 📢 Main Stage  รำไทย by New Gen (ครูแหม่ม) // Talk show   //  วง reborn // ละครใบ้ babymime

✨✨✨Highlight +++   19.15 – 20.00 น.  พบกับ  วง june

 

🟩 28 ก.ย. เวลา 15.00 เป็นต้นไป 🟩

📢 Main Stage   การแสดงดนตรีไทย // Talk show //  S.A. band และ S.A.wind Ensemble // Happy Time โดย Mime my show

✨✨✨Highlight +++   19.00 – 20.00 น.  พบกับ  Marc Tatchapon (มาร์ค ธัชพล)



🟧 29 ก.ย. 15.00 เป็นต้นไป 🟧

📢 Main Stage  

- เทควันโดแดนซ์  //  Talk show  // วงเตรียมอุดมศึกษา  //  Cover dance 

✨✨ Highlight +++ 19.00 – 20.00 น.     YourMOOD (full band)



และพลาดไม่ได้  ใครพลาดเสียดายสุดๆ กับ 4 ZONE  Youthtopia พื้นที่แห่งการเรียนรู้ที่ทุกคนเข้าถึงได้

เพื่อต่อยอดไปสู่การสร้างกรุงเทพฯ ที่เหมาะสม*   จำลองเป็นพื้นที่ของเมืองที่เป็นเมืองที่ทุกคนเข้าถึง Happiness,

Safe space และExplore ourselve ได้แล้ว  อีกทั้งมีกิจกรรมที่น่าสนุกอีกมากมาย มาร่วมสร้างเมืองในฝันกัน  ชวนเพื่อนคุณไปพร้อมกัน! และที่สำคัญ เข้าร่วมกิจกรรมฟรี ตลอดงาน ปักหมุดไว้แล้วพบกัน!


📌 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร   https://maps.app.goo.gl/fpgJoAbC2N2d37cE6


#BKKเรนเจอร์ # YOUTHTHOPIA   #รวมพลังเด็กเปลี่ยนเมือง #ศูนย์นันทนาการ 34 แห่ง#ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร#เทศกาลเด็กและเยาวชน


ททท. จัดงาน อะ’ลอง Uttaradit เปิดมุมมองใหม่จังหวัดอุตรดิตถ์ให้เป็นเมืองน่าลอง ณ อุทยาน 100 ปี จุฬาฯ วันที่ 20-22 กันยายนนี้

 

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับจังหวัดอุตรดิตถ์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดงาน “อุตรดิตถ์เมืองสร้างสรรค์ (อะ’ลอง Uttaradit) ระหว่างวันที่ 20-22 กันยายน 2567 เวลา 15.00-21.00 น. ณ อุทยาน 100 ปี จุฬาฯ พาสัมผัสวิถีชีวิตของชาวอุตรดิตถ์ ผ่าน 4 ประสบการณ์ ได้แก่ อะ’ลอง กิน, อะ’ลอง ดู, อะ’ลอง ทำ, อะ’ลอง Time พร้อมชวนเที่ยวอุตรดิตถ์เมืองน่าลองไปเที่ยว โดยพิธีเปิดงานได้รับเกียรติจาก นายศิริวัฒน์ บุปผาเจริญ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ และ นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. เข้าร่วมเป็นประธานในพิธีเปิด ในวันที่ 20 กันยายน 2567 ณ อุทยาน 100 ปี จุฬาฯ 

นายศิริวัฒน์ บุปผาเจริญ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ กล่าวว่า รัฐบาลมุ่งผลักดันอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยด้วยนโยบาย "IGNITE THAILAND’s TOURISM" โดยมีกลยุทธ์เมืองหลักและเมืองน่าเที่ยวเป็นส่วนสำคัญในการเชื่อมโยงการท่องเที่ยวจากเมืองหลักสู่เมืองน่าเที่ยว เพื่อให้เกิดการกระจายรายได้สู่ชุมชนท้องถิ่นทั่วประเทศไทย ทั้งนี้ จังหวัดอุตรดิตถ์ถือเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพทางการท่องเที่ยว โดยมีทั้งแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ กิจกรรม รวมถึงศิลปวัฒนธรรมที่น่าสนใจ โดยเฉพาะในแง่มุมของความสร้างสรรค์ โดยจังหวัดอุตรดิตถ์ได้ร่วมกับศูนย์สร้างสรรค์การออกแบบ Thailand Creative & Design Center (TCDC) ลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือเรื่องโครงการจัดตั้งศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบแห่งใหม่ (NEW TCDC) ณ จังหวัดอุตรดิตถ์ เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2567 เพื่อสร้างโอกาสให้คนรุ่นใหม่ในท้องถิ่นได้เข้ามาร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจจังหวัด ตลอดจนเป็นการยกระดับมาตรฐานการเชื่อมโยงภาคส่วนธุรกิจให้เข้าใกล้ชุมชนได้มากขึ้น อันจะส่งผลต่อการขับเคลื่อนของภาคส่วนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการส่งเสริมภาพลักษณ์อัตลักษณ์ของพื้นที่ ตลอดจนการพัฒนายกระดับสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวมูลค่าสูง และนำเสนอมุมมองใหม่ในแง่ของการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ (Tourism and the Creative Economy) ดังนั้น การจัดงาน “อุตรดิตถ์เมืองสร้างสรรค์” (อะ’ลอง Uttaradit) ในครั้งนี้ จึงอยากจะนำเสนอมุมมองที่น่าสนใจในแง่ต่าง ๆ ของอุตรดิตถ์ผ่านการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ ผสมผสานศิลปะ วัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่นเข้ากับกิจกรรมท่องเที่ยว เพื่อสร้างการรับรู้แบบใหม่และดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามายังจังหวัด

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า การจัดงาน “อุตรดิตถ์เมืองสร้างสรรค์” (อะ’ลอง Uttaradit) เป็นการสร้างการรับรู้กระตุ้นการเดินทางของนักท่องเที่ยวผ่านกิจกรรมนันทนาการทางการท่องเที่ยว ด้วยแนวคิดเสน่ห์ไทย (Thailand Soft Power) 5 Must Do in Thailand นำเสนอเสน่ห์ไทย Must Taste : อิ่มอร่อยกับอาหารถิ่นทั่วไทย Must See : ละลานตา วัฒนธรรมไทย Must Seek : Unseen ถิ่นน่าเที่ยว Must Buy : หัตถกรรมล้ำค่าน่าซื้อฝาก และ Must Try :  สุดยอดกีฬา ท้าทายกายใจ เพิ่มมูลค่าสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยว เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว และต่อยอดกระแสการเดินทางของกลุ่มนักท่องเที่ยวที่จะเข้าไปเรียนรู้ ประสบการณ์ที่แตกต่างในการเดินทางท่องเที่ยวที่จังหวัดอุตรดิตถ์ ไปสัมผัสธรรมชาติที่บริสุทธิ์ กิจกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เรียนรู้ศิลปะ วัฒนธรรม หัตถศิลป์ สถาปัตยกรรม ด้านอาหาร เครื่องแต่งกาย และสัมผัสวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของกลุ่มคนในพื้นที่ รวมถึงค้นพบความสร้างสรรค์ของจังหวัดอุตรดิตถ์ ซึ่ง ททท. พร้อมต่อยอดส่งเสริมภาพลักษณ์ผ่านกลยุทธ์เสน่ห์ไทย (Thailand Soft Power) 5 Must Do @Uttaradit ยกระดับสินค้าและบริการทางท่องเที่ยวที่เกี่ยวเนื่องกับภาคส่วนต่างๆ อาทิ สินค้า GI  ศิลปะวัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิตของชุมชนมาต่อยอดผ่านการเล่าเรื่องประสบการณ์ฯ เพื่อส่งต่อให้กลุ่มลูกค้าเป้าหมายผู้มีศักยภาพในการเดินทางสู่จังหวัดอุตรดิตถ์

“งาน อะ ’ลอง Uttaradit จะเปลี่ยนความคิดที่ว่า “อุตรดิตถ์เป็นเมืองรอง” ให้กลายเป็นเมืองน่าลอง โดยการหยิบเอาวัฒนธรรม อาหาร ศิลปะ และเรื่องราวจากเจ้าของพื้นที่มาถ่ายทอดอย่างสร้างสรรค์และเข้าถึงได้ง่ายให้นักท่องเที่ยวได้ลองสัมผัสวิถีอุตรดิตถ์แบบแท้ ๆ ผ่านประสบการณ์รูปแบบใหม่ที่จะสร้างแรงบันดาลใจ ไม่ว่าจะเป็น อะ’ลอง กิน : กับขันโตก น่าแล ที่รวมอาหารพื้นเมืองภาคเหนือ อีกทั้งของกินห้ามพลาดในอุตรดิตถ์ เช่น ข้าวพันผัก, ไส้กรอกใหญ่รสเด็ดพิชัย, หมี่พันลับแล อะ’ลอง ดู : การแสดงดนตรีสด, นิทรรศการศิลปะในโซน Art-taradit Creative Space และ วิดีโอคอนเทนต์ที่จะพาท่องเที่ยวอุตรดิตถ์ในมุมที่คิดไม่ถึงผ่าน 3 Influencer ชื่อดัง อะ’ลอง ทำ : Painting Workshop ระบายสีโปสการ์ดและจานดินเผา ที่นำเสนอความสร้างสรรค์แบบอุตรดิตถ์ ด้วยลายเส้นเฉพาะตัวจากมามะอาร์ตสเปซ อะ’ลอง Time : ชวนทุกคนมา ‘Take a ลอง time ใช้เวลาอีกนิด รู้จักอุตรดิตถ์ให้มากขึ้น’ เพลิดเพลินไปกับโซนต่าง ๆ 

ภายในงาน ที่แฝงไปด้วยอัตลักษณ์ของอุตรดิตถ์ พบกับร้านตลาดสินค้าสร้างสรรค์ ที่พาชาวเมืองอุตรดิตถ์มาเปิดหมู่บ้าน มัดรวมของดี ของเด็ดประจำจังหวัด อาทิ งานคราฟต์ อาหาร สินค้าท้องถิ่น ให้ทุกคนได้ ชม-ชิม-ช้อป และกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมายที่ชวนให้นักท่องเที่ยวมาลองใช้เวลาที่งาน “อุตรดิตถ์เมืองสร้างสรรค์” (อะ’ลอง Uttaradit) ในวันที่ 20-22 กันยายน 2567 ตั้งแต่เวลา 15:00-21:00 น. ณ อุทยาน 100 ปี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 1672 Travel Buddy และศูนย์ประสานงานการท่องเที่ยวจังหวัดอุตรดิตถ์ 065 525 4962 

“วราวุธ” ชู ผลสำเร็จ นโยบาย 5x5 ฝ่าวิกฤตประชากร ดัน กระเสียวโมเดล สร้างรายได้-อาชีพมั่นคงให้กลุ่มเปราะบาง พร้อมเป็นพี่เลี้ยงชุมชนเข้มแข็งทั่วประเทศ

 

วันที่ 19 กันยายน 2567 ที่ อ.ด่านช้าง จ. สุพรรณบุรี นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานเปิดโครงการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตประชากรกลุ่มเป้าหมายพิเศษในพื้นที่นิคมสร้างตนเอง ประจำปีงบประมาณ 2567 (นิคม Next : กระเสียวโมเดล) โดยมี นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวรายงาน  นายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี และนางจตุพร โรจนพานิช ร่วมเป็นเกียรติ ที่นิคมสร้างตนเองกระเสียว อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี จากนั้น เดินทางไปเยี่ยมชมบ้านนางบังอร อ่อนคำสี ตัวอย่าง : การพัฒนาทุนมนุษย์ในศตวรรษที่ 21 และการแก้ไขปัญหาความยากจนข้ามรุ่นให้กับสมาชิกนิคมและราษฎร เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดี มีความสุข อย่างมั่นคง นำไปสู่การสร้างสังคมคุณภาพที่เข้มแข็งและยั่งยืน 

นายวราวุธ กล่าวว่า โครงการนิคม Next หรือ “กระเสียวโมเดล” เกิดขึ้นภายใต้นโยบาย 5x5 ฝ่าวิกฤตประชากร ที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาทุนมนุษย์ ทุนทางสังคม พร้อมมอบโอกาสและสร้างระบบนิเวศที่เอื้อต่อคนทุกช่วงวัย ผนวกกับการนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และ BCG โมเดล มาเป็นหลักสำคัญในการขับเคลื่อนเชิงพื้นที่ โดยใช้พื้นที่นิคมสร้างตนเองกระเสียว จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นต้นแบบในการพัฒนาทุกมิติทางสังคมและครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย ผ่านการบูรณาการระหว่างหน่วยงานของกระทรวง พม. กับภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐ เอกชน ประชาสังคม และประชาชน พร้อมนำ “กระเสียวโมเดล” เป็นแนวทางการพัฒนาคุณภาพชีวิตพี่น้องประชาชนด้านอาชีพและรายได้  เพื่อครอบครัวไทยที่เข้มแข็ง เป็นรากฐานที่มั่นคงให้กับสังคมไทยทั่วประเทศ

นายวราวุธ กล่าวว่า โครงการนิคม Next หรือ “กระเสียวโมเดล” ได้นายกนก วงษ์ตระหง่าน อดีตรองประธานคณะที่ปรึกษาติดตามและเร่งรัดการขับเคลื่อนนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวง พม. ผลักดันมาตลอดระยะเวลาเกือบปีที่ผ่านมา ทำให้สถานที่แห่งนี้ได้มีโอกาสดำเนินตามนโยบายที่เราได้นำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีและที่ประชุมของสหประชาชาติ คือนโยบาย 5×5 ฝากวิกฤตประชากร ซึ่งประกอบด้วย 5 ยุทธศาสตร์ที่พูดถึงการเสริมพลังให้กับคนวัยทำงาน การดูแลเด็กเล็ก การเสริมพลังของผู้สูงอายุ การเสริมศักยภาพของคนพิการ รวมถึงการสร้างสังคมที่อบอุ่นและเอื้อให้กับมนุษย์รุ่นใหม่ในเรื่องการที่จะมีครอบครัวและมีทายาทต่อไปในอนาคต ซึ่งทั้ง 5 ยุทธศาสตร์รวมกันเป็นนโยบาย 5×5 ฝ่าวิกฤติประชากร เป็นสิ่งที่ต้องบอกว่าเป็นการทำงานที่ต้องบูรณาการงานของหลายหน่วยงานเข้าด้วยกัน ที่แห่งนี้ที่เรายืนอยู่ ถือเป็นตัวอย่างเป็นการนำร่อง โครงการนิคม Next หรือ “กระเสียวโมเดล” ที่เป็นตัวอย่างให้อีกหลายๆ นิคมสร้างตนเองในประเทศไทย และอีกหลายชุมชน หลายจังหวัดทั่วประเทศว่าที่แห่งนี้เราสามารถพัฒนาจนกระทั่งทางพี่น้องประชาชนที่อยู่ในนิคมสร้างตนเองแห่งนี้มีรายได้เพิ่มขึ้นต่อเดือนนับหมื่นบาท เรามีศูนย์พัฒนาเด็กเล็กที่ทำให้พี่น้องประชาชนนั้นสามารถดูแลเด็กประมาณเกือบ 30 ครอบครัว ทำให้เด็กของเรามีคุณภาพดีขึ้น โดยการพัฒนาทั้งร่างกายและจิตใจ เรามีการเสริมพลังให้กับพี่น้องคนสูงอายุและคนพิการจนกระทั่งสองกลุ่มนี้ที่เป็นกลุ่มเปราะบางนั้น ไม่ใช่กลุ่มเปราะบางอีกต่อไป แต่ในทางกลับกันสร้างรายได้ให้ รวมถึงชุมชนแห่งนี้ และที่สำคัญที่สุดที่นิคมสร้างตนเองกระเสียวแห่งนี้ เราสามารถสร้างครอบครัวตัวอย่างได้หลายสิบครอบครัวเป็นครอบครัวที่อบอุ่นอยู่กันข้ามรุ่นเรียกว่าเป็นอินเตอร์เจนเนอเรชั่น เฮ้าส์ซิ่ง มีตั้งแต่รุ่น ปู่ ย่า ตา ทวด จนถึงลูกหลานเหลน และอยู่ร่วมกันช่วยเหลือเกื้อกูลกันเป็นการสร้างสังคมที่มีความอบอุ่น มีความเข้มแข็งและพร้อมที่จะเผชิญกับปัญหาต่างๆที่จะเกิดขึ้นในอนาคต 

“ดังนั้นวันนี้การทำงานของกระทรวง พม. ที่นิคมสร้างตนเองกระเสียวแห่งนี้ เป็นการทำงานภายใต้แนวคิดนโยบาย พม. หนึ่งเดียว และที่สำคัญกว่าจะทำถึงขนาดนี้ได้นั้น เป็นไปตามแนวทางที่ตนให้ไว้ตอนแรก คือ พม. ยกกำลังสอง เราทำงานด้วยกันทุกหน่วยงานและบูรณาการด้วยกัน และที่สำคัญ นอกจากนิคมสร้างตนเองกระเสียวจะเป็นพื้นที่ตัวอย่างแล้วเราจะขยายความสำเร็จนี้ไปอีกทุกๆ นิคมสร้างตนเองในประเทศไทย และ หากว่าชุมชนใดที่อยู่นอกเหนือการดูแลของนิคมสร้างตนเองนั้นอยากจะทำงานในลักษณะเดียวกันติดต่อมาได้ ที่กระทรวง พม.  เราจะให้ทีมงานของเราเป็นพี่เลี้ยงคอยดูให้คำแนะนำและทำอย่างไรเพื่อให้นโยบาย 5×5 ฝ่าวิกฤตประชากร  ทำให้สังคมไทยนั้นมีความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น อบอุ่นมากยิ่งขึ้น และท้ายที่สุดจะสามารถแก้ไขปัญหาวิกฤติประชากรที่ประเทศไทยกำลังเผชิญอยู่ได้

นายวราวุธ กล่าวว่า การขับเคลื่อน โครงการนิคม Next หรือ “กระเสียวโมเดล” ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ได้สร้างการเปลี่ยนแปลงภายในพื้นที่หลายมิติอย่างเป็นรูปธรรม ดังนี้  

1) มิติเศรษฐกิจ สมาชิกนิคมฯ ผู้ผลิตตะไคร้และขมิ้นชัน มีรายได้เพิ่มขึ้น 5,000 – 10,000 บาท/เดือน กลุ่มวิสาหกิจชุมชนแปรรูปสมุนไพรบ้านพุหวาย ได้องค์ความรู้การทำขนมเบเกอรี่ที่หลากหลาย สนับสนุนให้มีการรับรองมาตรฐานสินค้า ปรับปรุงแพ็คเกจ และหาตลาดรองรับร่วมกับเซ็นทรัล ทำให้มีรายได้เพิ่ม 300 – 500 บาท/คน รวมถึงมีการส่งเสริมให้ผู้สูงอายุและคนพิการเลี้ยงจิ้งหรีด ทำให้มีรายได้เพิ่ม 500 – 4,000 บาท/คน

2) มิติสิ่งแวดล้อม สมาชิกนิคมฯ และประชาชนที่เข้าร่วมโครงการมีน้ำบาดาลใช้เพื่อการเกษตร โดยวางระบบน้ำหยด ขนาด 60 ไร่ และ 500 ไร่ จำนวน 44 ราย รวมถึงสามารถปรับระบบป่านิเวศชุมชน 18 ไร่ ด้วยการปลูกกล้าไม้เศรษฐกิจ 7,200 ต้น พร้อมเติมเชื้อเห็ดเผาะ/เห็ดโคน ทำให้ประชาชนในพื้นที่มีอาชีพและรายได้เสริม

3) มิติทางสังคม ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านวังหน่อไม้ได้รับการปรับปรุง ทำให้เด็ก 36 คน มีผลการประเมิน DSPM 100 % ตามแนวทาง High Scope ด้วยระบบ Active Learning นอกจากนี้ ยังมีเด็กและเยาวชนได้รับการพัฒนาเรื่องระเบียบวินัยและพัฒนาการ ผู้สูงอายุได้รับการดูแลครบถ้วนทั้ง 5 มิติ และเข้าถึงสวัสดิการ 100% ตลอดจนเกิดครอบครัวต้นแบบ 36 ครอบครัว ที่คนในครอบครัวมีความสัมพันธ์ที่ดี อบอุ่น รู้จักหน้าที่ และช่วยกันประกอบอาชีพกันมากขึ้น


#ข่าวพม #พม #ศรส #esshelpme #1300 #วราวุธรับฟังทำจริง #พมพอใจให้ทุกวัยพึงพอใจในพม #พมหนึ่งเดียวรวมใจ #พม #กระเสียว #สุพรรณบุรี


Friday, September 13, 2024

คอนเสิร์ตการกุศล #SAVEเชียงราย คอนเสิร์ตแบ่งปันน้ำใจ ช่วยอุทกภัยเชียงราย @ปาร์คกิ้งทอยส์ (เกษตร-นวมินทร์)

 


ในวันอาทิตย์ที่ 15 ก.ย.นี้  17.00-02.00น ชมฟรี!

พบกับศิลปินจิตอาสา

-พี่เล็ก ฮิวโก้

-พี่ใหม่สิบล้อ

-ที สเกิ๊ต 

-พี่เป๊ก บลูสกาย

-MAD PACK IT

-เพลย์กราวน์

-B-KING

-SMILEY​ FARMER​ 

-THE SLAVES BAND

-PP-DREAMS

-เทวัญ GOLDRED

-NEVER GETS OLD

-NIKU KNO3

-BLACK CYANIDE

-NHO SNOBoq

& ศิลปิน  ส่งต่อความรัก จากค่าย 2 Degrees 

-ธันวา ฌณาวุฒิ  (The Golden Song )

-อาร์ม โต้รุ่ง 

-เดียร์ เดอะแมส 

-วิลล์ ธารา 

-พี่ นิราศบลู

-LOKEE RED LIGHT


เปิดรับบริจาคที่ 

ร้านปาร์คกิ้งทอยส์  

เกษตร-นวมินทร์ เท่านั้น ตั้งแต่ 17.00-02.00น. (ไม่รับบริจาคผ่านช่องทาง Online ใดๆ ทั้งนั้น)


หมายเหตุ : 

สิ่งที่รับบริจาค

เสื้อผ้า+ น้ำดื่ม+อาหารแห้ง +เงิน ร่วมสมทบช่วยพี่น้อง จ.เชียงรายประสบภัยน้ำท่วมหนัก


มีการประมูลของจากพี่ๆ ซิลลี่ฟู ส่งมาให้นะครับ

อีกมากมายจากพี่ๆ ศิลปิน


เราจะนำสิ่งของ+เงิน+รถลงไปบริจาค

ตรงกับพี่น้องผู้ประสบภัยครับ


หมายเหตุ สอบถามรายละเอียดและสื่อมวลชนลงทะเบียนร่วมงาน   เวลา 19.00 น. 


ติดต่อประสานงานสื่อมวลชน 

ต้น กมลเมศวร์  0863761186 

กบ 0967701447


Link คอนเสิร์ตการกุศล  #SAVEเชียงราย 

คอนเสิร์ตแบ่งปันน้ำใจ ช่วยอุทกภัยเชียงราย 


https://www.facebook.com/share/p/eg2Kin4e2deBMe6R/?mibextid=oFDknk

Monday, August 19, 2024

กฟผ.จับมือไทยแอลฯจัดกอล์ฟอาชีพสตรีที่สนามเขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น

สมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพสตรี จัดงานแถลงข่าว ร่วมกับ การไฟฟ้าฝ่ายผลิต แห่งประเทศไทย จัดการแข่งขันกอล์ฟรายการ “สิงห์-เอ็นเอสดีเอฟ ม่วนซื่น 2024 พรีเซนเตด บาย อีแกต”  ชิงเงินรางวัล 1.7 ล้านบาท ณ สนามกอล์ฟเขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น ระหว่างวันที่ 11-13 กันยายน 2567 โดยงานแถลงข่าวจัดขึ้นที่ ออลไทยแลนด์ กอล์ฟ เซนเตอร์ จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 19 สิงหาคมที่ผ่านมา

โดยสมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพสตรี ได้ร่วมมือกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และสนามกอล์ฟเขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น ในการจัดการแข่งขันกอล์ฟอาชีพสตรี ถือเป็นความร่วมมือต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ที่จะพัฒนากีฬากอล์ฟอาชีพในประเทศไทย ไปจนถึงการจัดกิจกรรมเพื่อสังคม อย่างต่อเนื่องเช่น การพัฒนาคุณภาพของสนามกอล์ฟเขื่อนอุบลรัตน์ ทั้งในด้านการบริหารจัดการสนามกอล์ฟ การจัดอบรมบุคคลากรของสนาม การจัดกิจกรรมกอล์ฟการกุศล และกิจกรรมเพื่อสังคม ซึ่งได้รับความร่วมมือจาก นักกีฬากอล์ฟอาชีพสตรี บุคคลากรของสนามกอล์ฟเขื่อนอุบลรัตน์ และประชาชนทั่วไป ในจังหวัดขอนแก่นและจังหวัดใกล้เคียงเป็นอย่างดี ในปีที่ผ่านมา
นายอานันต์ เผือกพิบูลย์ นายกสมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพสตรี กล่าวว่า  “สมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพสตรี ขอแสดงความขอบคุณ รู้สึกยินดีและเป็นเกียรติมาก ที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย สนามกอล์ฟเขื่อนอุบลรัตน์ ผู้ให้การสนับสนุนในการจัดแข่งขัน และกิจกรรมต่าง ๆ ในการจัดแข่งขันกอล์ฟรายการ สิงห์-เอ็นเอสดีเอฟ ม่วนซื่น 2024 พรีเซนเตด บาย อีแกต สอดคล้องกับทางสมาคมฯในปีนี้ เป็นแนวทาง สนุกสนาน สีสัน และที่สำคัญคือ การพัฒนานักกีฬากอล์ฟ การทำกิจกรรมเพื่อสังคม ในฐานะนายกฯ ก็อยากเชิญชวน ให้น้องนักกีฬา ประชาชน พี่ๆสื่อมวลชน ทุกท่าน ได้มีโอกาสเข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมดีๆ แบบนี้ เพราะนอกจากจะดูเกมแข่งขันสนุกๆแล้วยังจะได้ร่วมทำบุญไปด้วย”
“ที่สำคัญต้องขอบคุณผู้ให้การสนับสนุกหลัก ในการดำเนินงานของสมาคมฯ มาโดยตลอด โดยได้รับสนับสนุนเงินรางวัลรวมทั้งสิ้น 1,700,000 บาท ซึ่งเป็นเงินรางวัลจาก บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด, การกีฬาแห่งประเทศไทย และ กองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ จำนวน 1,200,000 บาท และได้รับการสนับสนุนเพิ่มเติมจากการ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย อีกจำนวน 500,000 บาท  ขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้ด้วย”
นายประสิทธิ์ อุปชิตร ผู้ช่วยผู้อำนวยการ โรงไฟฟ้าพลังน้ำ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กล่าวว่า “ในปีนี้ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และสนามกอล์ฟเขื่อนอุบลรัตน์ ร่วมสนับสนุน กับทาง สมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพสตรี จัดการแข่งขันกอล์ฟอาชีพสตรี รายการ สิงห์- เอ็นเอสดีเอฟ ม่วนซื่น 2024พรีเซนเตด บาย อีแกต ในระหว่างวันที่ 11 - 13 กันยายน พ.ศ. 2567 นี้ ณ สนามกอล์ฟเขื่อนอุบลรัตน์ พร้อมจัดกิจกรรมกอล์ฟโปร-แอม เพื่อการกุศล ในวันอาทิตย์ที่ 8 กันยายน 2567 โดยรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายจะนำไปมอบสมทบทุนการก่อสร้างอาคารสงฆ์อาพาธ และแพทย์แผนไทย โรงพยาบาลสิรินธร จังหวัดขอนแก่นอีกครั้ง”
“นอกจากนี้ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และสมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพสตรี ยังมีความเห็นตรงกันที่จะพัฒนากีฬากอล์ฟของประเทศไทยในทุก ๆ ด้านร่วมกัน โดยเน้นการพัฒนาแบบบูรณาการในทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง นำไปสู่ความยั่งยืนในอนาคต และอาจส่งต่อการแข่งขันกีฬากอล์ฟอาชีพไปสู่สนามกอล์ฟต่าง ๆ ที่อยู่ภายในการดูแลของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยทั่วทุกภูมิภาคในอนาคต”

สำหรับการแข่งขันกอล์ฟอาชีพสตรี ไทย แอลพีจีเอ ทัวร์ รายการที่ 9 ประจำปี 2567 “สิงห์ - เอ็นเอสดีเอฟ ม่วนซื่น 2024พรีเซนเตด บาย อีแกต” ชิงเงินรางวัลรวมทั้งสิ้น 1,700,000 บาท ระหว่างวันที่ 11 - 13 กันยายน2567 ณ สนามกอล์ฟเขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น แฟนกอล์ฟสามารถติดตามความเคลื่อนไหว และลุ้นผลการแข่งขันได้ทาง  LIVE SCORE ผ่านเฟซบุ๊ค THAILPGATOUR และ เว็บไซท์ www.thailpga.com

 บรรยายภาพ
นายอานันต์ เผือกพิบูลย์ นายกสมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพสตรี, นายกุลธร มีสมมนต์  อุปนายก และกรรมการฝ่ายกิจการต่างประเทศ พร้อมด้วย ผู้บริหารโรงไฟฟ้าพลังน้ำ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นำโดยนาย ประสิทธิ์ อุปชิตร ผู้ช่วยผู้อำนวยการ, นายจาตุรนต์ ใกล้จันอัด หัวหน้ากลุ่มงานนันทนาการ และ นายศุภอรรถ อรรถวัน  หัวหน้ากองบำรุงรักษาโยธา ร่วมแถลงข่าวการจัดแข่งขันกอล์ฟอาชีพสตรี รายการ “สิงห์-เอ็นเอสดีเอฟ ม่วนซื่น 2024 พรีเซนเตด บาย อีแกต”ชิงเงินรางวัล 1.7 ล้านบาท ระหว่างวันที่ 11-13 กันยายน 2567 ณ สนามกอล์ฟเขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น โดยงานแถลงข่าวมีขึ้นเมื่อวันที่ 19 สิงหาคมที่ผ่านมา ณ ออลไทยแลนด์ กอล์ฟ เซนเตอร์ จ.ปทุมธานี

Thursday, August 15, 2024

Shwe Kokko yatai จัดงานบุญครั้งใหญ่ มีประชาชนกว่า 3,000 คน มาสวดมนต์ขอพรส่งกำลังใจถึงนาย She Zhijiang ผู้ก่อตั้งเมือง

 


https://youtu.be/YuM3_6Md910

Shwe Kokko YATAI (ชเวโก๊กโก่ ยาไท่) จัดงานบุญครั้งใหญ่ในจัตุรัส Arc de Triomphe (อาร์ค ดา ทรีออฟ) ของเมืองเอเชียแปซิฟิก เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2567 โดยนำกำแพงสีแดงยาวกว่า 50 เมตรให้ชาวเมียนมาเขียนอวยพรขอให้นาย She Zhijiang (แส เจ้อเจียง) ผู้ก่อตั้งเมืองชเวโก๊กโก่ เอเชียแปซิฟิก มีสุขภาพแข็งแรง ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิคุ้มครองและขอให้กลับมาโดยเร็ววัน เพื่อสานต่อวิสัยทัศน์ของเขาที่เป็นผู้นำในการสร้าง Shwe kokko ให้เจริญก้าวหน้า เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนในท้องถิ่น

พิธีบุญครั้งนี้มีผู้คนมากมายต่างหลั่งไหลเข้าร่วมงาน ทั้งตัวแทนคณะทหาร คณะกรรมการหมู่บ้าน นักธุรกิจ ตัวแทนบริษัท ตลอดจนคุณครูในท้องถิ่น นักเรียน และบุคคลทั่วไปจากทุกสาขาอาชีพ  มีพระภิกษุสงฆ์ชาวเมียนมา 43 รูปที่เดินทางมาสวดมนต์เพื่อเป็นสิริมงคล ซึ่งมีผู้คนมาร่วมงานกว่า 3,000 คน มาสวดภาวนาอวยพรอธิษฐานให้นาย She Zhijiang มีสุขภาพที่ดีและกลับมาอย่างปลอดภัย

เมืองแห่งเอเชียแปซิฟิก ในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา พวกเขาได้เห็นการเปลี่ยนแปลงและการพัฒนาของเมือง Shwe Kokko และเมืองในเอเชียแปซิฟิก จากถนนที่เต็มไปด้วยโคลนกลายเป็นถนนที่ทอดยาวไปทุกทิศทาง ตั้งแต่ไม่มีน้ำและไฟฟ้าจนมีแสงสว่างสไหว จากกระท่อมมุงจากไปจนถึงตึกอาคารใหม่ การเปลี่ยนแปลงทั้งหมดนี้ล้วนมาจากการลงทุน การพัฒนาและการก่อสร้างเมือง Shwe Kokko ของ นาย She Zhijiang (แส เจ้อเจียง) ชาวเมียนมาเชื่อว่าเขาจะกลับมาแน่นอนในอนาคตอันใกล้นี้ และจะมีส่วนร่วมในการก่อสร้างพัฒนาบ้านเมืองของพวกเขาร่วมกันต่อไป เพราะเมืองนี้ไม่เคยลืมเขา และผู้คนที่นี่ก็ไม่เคยลืมเขา

เป็นที่น่าสังเกตว่า Shwe Kokko Asia Pacific City เป็นเมืองเกิดใหม่ที่ได้รับการจดทะเบียนยกระดับเป็นจังหวัดเมื่อ 4 ปีที่แล้ว  โดยตั้งอยู่ห่างจาก KK Park หลายสิบกิโลเมตร แสดงให้เห็นว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกัน

เมือง Shwe kokko เอเชียแปซิฟิกภายใต้การนำของนาย She Zhijiang มุ่งหวังที่จะมอบสภาพแวดล้อมการอยู่อาศัยที่สะดวกสบายแก่ผู้คนที่นี่ โดยเน้นเสรีภาพทางวัฒนธรรม เสรีภาพในการนับถือศาสนา เสรีภาพส่วนบุคคล และความมั่นคงในทรัพย์สิน เพื่อให้มั่นใจว่าผู้อยู่อาศัยจะได้รับความปลอดภัยในระดับสูงสุด เมืองนี้มีโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภคที่ครบครัน เช่น ไฟฟ้า น้ำประปา โรงบำบัดน้ำเสีย โรงพยาบาลนานาชาติ  อาคารที่พักอาศัย ยังนำเทคโนโลยีการก่อสร้างที่ทันสมัยมาใช้ ทำให้มีสภาพแวดล้อมในการอยู่อาศัยที่สะดวกสบาย นอกจากนี้ การวางผังเมืองยังคำนึงถึงความต้องการในการพัฒนาระบบขนส่งในอนาคต เพื่อรองรับการเชื่อมต่อระเบียงเศรษฐกิจที่ราบรื่น

กล่าวโดยสรุป การพัฒนาเมือง shwe kokko เอเชียแปซิฟิก เรียกได้ว่าเป็นความก้าวหน้าแบบ "ก้าวกระโดด" นับตั้งแต่เริ่มก่อสร้าง การก่อสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกด้านบริการ เช่น ที่พักอาศัยและโรงแรมมีความก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว โดย YATAI ในฐานะผู้ดำเนินการที่มีประสบการณ์มากมายในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ (Real Estate)  และการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน การใช้ระบบเทคโนโลยีที่ทันสมัยในการก่อสร้างอาคารสูงได้สำเร็จอย่างรวดเร็วโดยใช้เวลาไม่นานนัก

ดังนั้น ชาวกะเหรี่ยงในเมียนมาและพื้นที่ใกล้เคียงจึงรู้สึกตื่นเต้นและภาคภูมิใจกับการพัฒนาเมืองใหม่แห่งนี้ โดยเฉพาะอาคารและสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัยที่ นาย She Zhijiang และบริษัท YATAI ของเขานำเข้ามาในเมียนมา นอกจากนี้ การก่อสร้างในเมืองนี้ยังมอบโอกาสการจ้างงานอย่างต่อเนื่องให้กับพวกเขา ช่วยเพิ่มรายได้ให้กับครอบครัวและมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น


Wednesday, July 31, 2024

UNPKFC จัดงาน Gala Night ฉลองความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่

    ผ่านพ้นไปด้วยดี และประสบความสำเร็จอย่างงดงาม กับงานโครงการ GLOBAL SPACE LEADERSHIP PROGRAM ภายใต้คอนเซปการเข้าถึงอวกาศสำหรับทุกคน Space Access for All ให้กับเยาวชนไทยจำนวน 3,000 คน  เนื่องในวโรกาสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษา 6 รอบ หรือ 72 พรรษา ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2567 นับเป็นมหามงคลสมัยพิเศษยิ่ง 

   สภาสหพันธ์รักษาสันติภาพ(UNPKFC) ร่วมกับ ศูนย์อวกาศหิมาลายัน(Himalayan Space Centre),สมาคมสหประชาชาติ แห่งโคเชลลาแวลลีย์ มลรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา UNA-USA และ Adventure of Humanity ,สมาคมแห่งสถาบันพระปกเกล้า,โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ สตรีวิทยา2 ,โรงเรียนอนุบาลพนัสนิคมศึกษาลัย ร่วมจัดกิจกรรม GLOBAL SPACE LEADERSHIP PROGRAM ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม เปิดตัวการเข้าถึงอวกาศสำหรับทุกคน โดยหลักสูตรการเรียนการสอนจาก NASA จำนวน 3,000 คน ด้วยความราบรื่น

    ดร.อภินิตา ไชยชนะ ประธานคณะกรรมการจัดงาน โครงการ Global Space Leadership Program กล่าวว่า การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ประสบความสำเร็จ ลุล่วง ด้วยดี จากความร่วมมือทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และคณะผู้จัดงานและภาคีเครือข่ายจิตอาสาทุกภาคทั้งในประเทศและระดับนานาชาติ ที่มีส่วนร่วมสำคัญในการให้ความร่วมมือ เพื่อเยาวชนที่จะเป็นผู้นำในอนาคต นอกจากเยาวชนจะได้ประโยชน์จากทักษะในการเรียนรู้ ,การทำงานเป็นทีม,การอยู่ร่วมกัน การมีสมาธิ ความคิดสร้างสรรค์ทางนวัตกรรมในเบื้องต้นแล้วนั้น ยังได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันความเท่าเทียมทางด้านการศึกษาอย่างเป็นรูปธรรมให้เกิดขึ้นในการอบรมหลักสูตรระดับโลกจาก NASA ในครั้งนี้ โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ตามวัตถุประสงค์ของโครงการฯ

   การจัดงาน Global Space Leadership Gala Night ขึ้นมาในครั้งนี้ เพื่อต้องการขอบคุณ บุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการสนับสนุน และมีส่วนสำคัญในความสำเร็จของโครงการ  Global Space Leadership Program ให้ประสบความสำเร็จ ตามวัตถุประสงค์ของโครงการฯ พร้อมกันนี้ยังจัดให้มีพิธีมอบรางวัลและเชิดชูเกียรติบุคคลสำคัญ  Global Leadership Achievement Award และ Global Young Achiever Award เพื่อขอบคุณบุคคลสำคัญ  เพื่อต้องการสร้างขวัญและกำลังใจให้กับบุคคลที่มีจิตสาธารณะเพื่อเยาวชนและส่วนรวมเพื่อผู้อื่นอย่างต่อเนื่องต่อไป โดยภายในงานมีบุคคลจากหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน, สภากลาโหมแห่งชาติประเทศอินโดนีเซีย ,สหประชาชาติ รวมถึง บุคคลสำคัญมีชื่อเสียงในสาขาอาชีพต่างๆ ในระดับนานาชาติเข้าร่วมกิจกรรมอย่างคับคั่ง และองค์กรที่เป็นส่วนสำคัญหลักในโครงการ อาทิเช่น บริษัท ไทยสมายส์ บัส , Visionglass And Door Industrial Co.,Ltd  เป็นต้น

The UNPKFC organized a Gala Night to celebrate the great success. 

The GLOBAL SPACE LEADERSHIP PROGRAM has passed successfully and beautifully, providing space access for all to 3,000 Thai youth under the concept of space access for All. This special occasion marks the 6th cycle or the 72nd year of the reign of His Majesty King Maha Vajiralongkorn on July 28, 2024, considered a great and auspicious era. 

The United Peace Keepers Federal Council (UNPKFC) collaborated with the Himalayan Space Centre, the United Nations Association of Coachella Valley California USA Chapter (UNA-USA), Adventure of Humanity, King Prajadhipok Institute's Society, Nawamintrachinuthit Satriwittaya 2 School, and Anubanphanatsuksalai School to successfully launch the GLOBAL SPACE LEADERSHIP PROGRAM, providing access to space for everyone with a curriculum developed by NASA for 3,000 participants. 

Dr. Aphinita Chaichana, Chairman of the Global Space Leadership Program organizing committee, stated that the event was a great success due to the collaboration of the government, private sector, organizers, and volunteer networks nationwide and internationally, who played a significant role in supporting future youth leaders. The youth not only benefited from learning skills, teamwork, coexistence, mindfulness, and innovative thinking but also contributed to promoting education equality in a fair manner during the NASA global training program, in line with the project's objectives, leaving no one behind. 

The Global Space Leadership Gala Night is organized this time to express gratitude to individuals who have been involved in supporting and have played a significant role in the success of the Global Space Leadership Program according to the program's objectives. The event will also include award ceremonies to honor important figures with the Global Leadership Achievement Award and Global Young Achiever Award, in order to show appreciation and provide encouragement to individuals with a public spirit for youth and community welfare, as well as to others continuously. The event will be attended by individuals from the government and private sectors, the Indonesian National Defense Council, the United Nations, as well as prominent figures in various professional fields at the international level, ensuring the participation of key organizations in the project such as Thai Smile Bus Company, Visionglass And Door Industrial Co., Ltd, and others.